เดินป่า 2 ประเทศสุดเขตไทย ลาว
โพสต์พาเที่ยว x Ride Explorer ท่องสวรรค์บนภูสอยดาว
ในการเดินทางเส้นทางท่องเที่ยวหน้าฝนในครั้งนี้ เป็นการเข้าร่วมกิจกรรม Buddy Travel Blogger Challenge ตะลุยเช็คอินอุตรดิตถ์ พิชิตภูสอยดาว ภายใต้การดูแลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแพร่ ในพื้นที่การดูแลเส้นทางการท่องเที่ยวจังหวัดแพร่และจังหวัดอุตรดิตถ์ งานนี้บอกเลยไม่ธรรมดา
เสน่ห์การเดินทางหน้าฝนที่หลายๆ คนอยากสัมผัสคงนี้ไม่พ้นอรรถรสของการเดินป่าในเส้นทางธรรมชาติ พิชิตภูสอยดาว เป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้คงหนีไม่พ้น ป่าสนเขา ดอกหงอนนาค และสารพันความชุ่มช่ำจากพันธุ์ไม้และสายลมที่ปลุกเร้าอารมณ์ความสุขออกมาวิ่งเล่นกันเลยทีเดียว
เส้นทางการเดินทาง เรามุ่งหน้าจากกรุงเทพฯ มุ่งสู่เส้นทางท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์ก่อนที่จะร่วมเดินทางไปกับ 9 หนุ่มโสด เอ้ย 9 ผู้พิชิต ก่อนอื่นมาถึงอุตรดิตถ์ในช่วงฤดูนี้ นอกจากธรรมชาติป่าเขาแล้ว อุตรดิตถ์ ยังมีสถานที่ให้ท่องเที่ยวหลายๆ แห่งที่น่าสนใจ
บ้านพระยาพิชัยดาบหัก
ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยคา อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับชีวประวัติของพระยาพิชัย ในบ้านยังมีรูปอนุสาวรีย์พระยาพิชัยให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม โดยเปิดให้บริการทุกวัน ช่วงเวลา 08.30 น. – 16.00 น. ใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดข้อมูลได้ที่นี่ www.museumthailand.com
บ่อเหล็กน้ำพี้
แหล่งแร่เหล็กตามธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่บ้านน้ำพี้ หมู่ 1 ตำบลน้ำพี้ อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ห่างจากตัวจังหวัดอุตรดิตถ์ประมาณ 56 กิโลเมตร โดยเป็นบ่อเหล็กกล้า มีอยู่ด้วยกันหลายบ่อ พร้อมเตาถลุงเหล็กโบราณนับพัน ๆ เตา โดยบ่อเหล็กน้ำพี้ที่สำคัญและสงวนใช้สำหรับพระมหากษัตริย์ มีอยู่ 2 บ่อ คือ บ่อพระแสง และ บ่อพระขรรค์ มีการนำแร่เหล็กจากบ่อเหล็กน้ำพี้ไปถลุงทำอาวุธเพื่อใช้ในการศึกสงครามมาตั้งแต่สมัยโบราณนั่นเอง โดยบ่อเหล็กน้ำพี้ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกแห่งที่น่าสนใจไม่น้อยกว่า บ้านพระยาพิชัยเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสประวัติศาสตร์กันแล้ว ยังสามารถตกเหล็กน้ำพี้ จากบ่อที่ทางสถานที่ได้เตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นำกลับไว้บูชาอีกด้วย
เมื่อท่องเที่ยวในเมืองกันอย่างเต็มอิ่มแล้วเราก็มุ่งหน้าไปสู่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เพื่อเตรียมพร้อมพิชิตภูสอยดาว กันในเช้าวันรุ่งขึ้น
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
ตั้งอยู่ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคกอำเภอบ้านโคกตำบลห้วยมุ่นอำเภอน้ำปาดจังหวัดอุตรดิตถ์ตำบลบ่อภาคอำเภอชาติตระการจังหวัดพิษณุโลก เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีจุดเด่นที่น่าสนใจและเป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยว ได้แก่ น้ำตกภูสอยดาว เป็นน้ำตก 5 ชั้น มีเนื้อที่กว้างประมาณ 1,000 ไร่ มีความสวยงามมาก มีถนนลาดยาง เข้าถึงพื้นที่ทำให้สะดวกสบายในการเดินทางพักผ่อนหย่อนใจ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีเนื้อที่ประมาณ 212,633 ไร่ หรือ 340.21 ตารางกิโลเมตร 
ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูง จากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย จุดเด่นที่น่าสนใจและเป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยว คือ การได้ชมทุ่งดอกไม้สีม่วงที่เรียกว่า”ดอกหงอนนาค” และดอกไม้หลากสีสันสลับให้เห็นอยู่ทั่วลานสน ซึ่งจะบานในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือน สิงหาคม. – กันยายน ของทุกปี
น้ำตกภูสอยดาว
อยู่ริมเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1268 ใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้นมีชื่อไว้อย่างไพเราะว่า ภูสอยดาว สกาวเดือน เหมือนฝัน กรรณิการ์ และสุภาภรณ์ มีน้ำไหลตลอดปี
ลานสนสามใบภูสอยดาวและทุ่งดอกไม้ในป่าสน
เป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติ มีพื้นที่ประมาณ 1,000 กว่าไร่ เป็นที่ราบบนเทือกเขาภูสอยดาว ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,633 เมตร สภาพพื้นที่ของลานสนสามใบจะเป็นเนินสูงต่ำสลับกันไป เป็นป่าสนสามใบพืชชั้นล่างเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี จะมีดอกไม้ดินชูช่อแย่งกันออกดอกเป็นกลุ่มหนาแน่น เช่นดอกหงอนนาค, ดอกสร้อยสุวรรณา และดอกหญ้ารากหอม ในฤดูหนาวจะมีดอกกระดุมเงิน, กล้วยไม้รองเท้านารี อินทนนท์ และต้นเมเปิล ซึ่งจะ เปลี่ยนเป็นสีแดงสวยงามมากการเดินทางไปเที่ยวลานสนสามใบภูสอยดาว ต้องเดินทางเท้าจากน้ำตกภูสอยดาว ขึ้นสู่ยอด ภูสอยดาวระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4-6 ชั่วโมง ผ่านเนินต่างๆ ดังนี้ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง เนินมรณะ ซึ่งเป็นเนินสุดท้ายลาดขันและท้าทายที่สุด
ใครที่มาท่องเที่ยวเดินป่าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ครั้งแรก แนะนำเลยว่าให้เตรียมสมรรถภาพร่างกายไว้ให้พร้อม มั่นฟิตออกกำลังกายกันไว้ล่วงหน้า รับรองการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้คุณจะได้ฟินกับธรรมชาติความสวยงามตลอดเส้นทางทาง พร้อมต้องเตรียมรองเท้าที่เหมาะสมในการเดินป่า ควรเป็นรองเท้าที่มีดอกยาง เพราะในช่วงการเดินเขาชันอย่างเนินส่งญาติ เนินปราบเซียน และเนินมรณะ มีจุดความชันและทางหินขรุขระหลาย จุดอาจจะทำให้ลื่นไถลได้ง่าย ควรระวัง ระหว่างทางอาจจะมีฝนตกดังนั้น เสื้อกันฝนควรเตรียมไว้ให้พร้อม หยิบสะดวกสามารถใช้งานได้ง่าย เพราะในช่วงหน้าฝน ฝนตกตลอดเวลา ส่วนสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวควรจะต้องเตรียมระหว่างทาง คือ น้ำดื่มให้พอเพียง และอาหารระหว่างทาง
สิ่งที่ควรรู้อื่นๆ และการเตรียมตัวในการเดินทาง ณ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
– ค่าลูกหาบกิโลกรัม ละ 20 บาทต่อเที่ยว มัดจำขยะ 100 บาทต่อคณะ ตอนลงนำขยะลงมารับเงินมัดจำคืน
– ควรฝึกเดินระยะทางไกลๆ และฟิตร่างกายเตรียมพร้อมก่อนออกมาลุย
– รองเท้าที่ใช้เดินควรเป็นแบบรองเท้าเดินป่า ผ้าใบมีดอก หรือรองเท้าสตั๊ด
– ระบบสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่ใช้ได้ในบางจุด ลานสน และที่ทำการอุทยานฯ (เฉพาะ AIS และ TRUE)
– เต้นท์ ถุงนอน แผ่นรองนอน ทางอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีให้เช่าเหมา/ คน / คืน ซึ่งสะดวกมากสำหรับการเดินป่าโดยไม่ต้องขนสัมภาระขึ้นไปบนภูสอยเอง
– หม้อสนาม และอุปกรณ์เครื่องครัว
– ลานกางเต้นท์บน ภูสอยดาวมีเตาอั้งโล่ให้เช่า สำหรับใครที่ต้องการใช้เตาให้เตรียมถ่านหุงต้มไปด้วย ซึ่งถ่านจะต้องเตรียมทั้งแบบไม้ที่ติดไฟง่าย และถ่านอัดก้อนที่ติดไฟนาน แนะนำใช้หัวแก๊สจะสะดวกกว่า
– ยากันแมลง สำหรับป้องกันยุงและแมลง(คุ่น)
– อาหารทุกมื้อบนอุทยานฯ ต้องเตรียมไปเอง เพราะข้างบนและระหว่างทางไม่มีร้านจำหน่ายสินค้า
– น้ำดื่มให้เตรียมให้พอดื่มระหว่างการเดินป่า ส่วนน้ำดื่ม น้ำใช้ด้านบนภูสอยดาวไม่ต้องเตรียมไป แต่สามารถใช้น้ำฝนที่เจ้าหน้าที่รองไว้ และน้ำในลำธารที่นำมาต้มดื่มได้
– ไฟฉายและตะเกียงให้ความสว่างในตอนกลางคืน
– สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ทางภูสอยดาวจัดเตรียมถังน้ำไว้ให้ยืม สามารถนำไปตักน้ำในลำธารมาอาบน้ำได้ แต่ห้ามลงอาบน้ำ ล้างจานในลำธารโดยเด็ดขาด
– เตรียมลืมเสื้อกันฝนไปด้วย
– สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปอย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ แบตเตอรี่สำรองให้พร้อม เพราะทางอุทยานฯ ไม่มีปลั๊กไฟให้ชาร์จ ต้องวางแผนการถ่ายภาพ วิดีโอ กันไว้ล่วงหน้าเพื่อไม่หลุดการเก็บบรรยากาศภาพความประทับใจในทุกๆ ชอตบนภูสอยดาว
อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
อัตราค่าบริการสำหรับยานพาหนะ
**หมายเหตุ เมื่อชำระค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติแล้วกรุณาพกบัตรค่าบริการติดตัว ขณะท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเพื่อการตรวจสอบ park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=9114
ถ้าพูดเป็นมุกเก๋ๆ ของการเดินทางเข้าป่าหน้าฝนที่ ภูสอยดาว ทริปนี้แบบเที่ยวไทย ลาว ทริปนี้ ไม่ต้องมีพาสปอร์ต เพียงแต่ใช้สองแรงแขนขา พากันตะลุยสายฝนไปพิชิตสวรรค์แห่งสายหมอกบนภูสอยดาว แล้วคุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่ประทับใจไม่รู้ลืม บางท่านในทริปเที่ยวภูสอยดาว จนหลง…ไม่ได้หลงทางนะ แต่หลงรัก มาทริปนี้เป็นรอบที่ 12 แล้ว และยังไม่หยุดที่จะมาเช็คชื่ออีกครั้งในหน้าหนาวปีนี้ ที่จะเปิดเนินสองพัน ให้ได้สัมผัสบรรยากาศการท่องเที่ยวป่าสนเขาในฝั่งลาวอีกด้วย ใครสนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแพร่ ที่ www.facebook.com/tat.phrae
โทร. 054 521 127
