อ้าย ปริทัศน์ เสวนา แบ่งปัน  Experienced teller

ส่งกุญแจปลุกความคิด 3+1C ไขสู่ความสำเร็จ

แนะนำตัว

  • ปริทัศน์ กองเพียร  อ้ายครับ อายุ 51 ปี ปัจจุบันทำงานด้านอีเว้นท์ออกาไนเซอร์ และออนไลน์ คอนเท้นท์ บริษัท ทรีแดนซ์ จำกัด ในช่วงโควิด-19 งานด้านอีเว้นท์หยุดชะงัก แต่งานออนไลน์รุดหน้า
  • ประวัติชีวิตโดยย่อ เรียนจบมัธยมปลาย ก็ออกมาทำงานเป็นเด็กรับใช้ในสำนักงานของ นสพ.มติชน เพราะมีความเชื่อว่า หากเราใช้เวลาในการทำงานจริงๆ มันคือการเรียนรู้โลกกว้าง ทำงานไล่ระดับขึ้นเป็น นักข่าว รีไรเตอร์ ผู้ช่วยหัวหน้าข่าวหน้าหนึ่ง หัวหน้าโต๊ะบันเทิง หัวหน้าโต๊ะเฉพาะกิจ และเป็นหัวหน้าข่าวหน้าหนึ่ง ที่ นสพ. ข่าวสด รวมอายุการทำงาน 16 ปี ก่อนจะออกมาเป็นบรรณาธิการ In Magazine ในเครือบริษัท แกรมมี่ เป็นเวลา 12 ปี
  • ปัจจุบันเตรียมตัวที่จะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาให้กับผู้คน ภายใต้แนวคิด Experienced teller #นักเล่าประสบการณ์ โดยเริ่มจากการจัดไลฟ์พูดคุยในมุมมองต่างๆ ในชื่อ ปริทัศน์ เสวนา ทาง https://www.facebook.com/ammahit

เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 คุณมีมุมมองคิดบวกกับสภาวะนี้อย่างไร สอนอะไรให้กับเราบ้าง

  • สถานการณ์โควิด-19 เป็นเพียงเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ มนุษย์ผ่านบททดสอบมากมายในแต่ละวัน ถึงไม่มีโรคระบาด สิ่งที่ทำให้มนุษย์ต้องระมัดระวังก็มากพออยู่แล้ว ดังนั้น ในมุมมองของผมไม่เคยคิดว่า โควิดจะส่งผลอะไรกับชีวิตมากไปกว่า สิ่งที่ทำให้รู้ว่าเรายังต้องใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังตลอดเวลา

เรามีทางออกในการเลือกใช้ชีวิต Work from Home อย่างไร

  • การทำงานที่บ้าน นับเป็นวิถีชีวิตใหม่ที่ทำให้เรามองบ้านแตกต่างไปจากเดิม เพราะการที่จะอยู่บ้านตลอด 24ชม.เป็นเวลานานๆ นั้น ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่คนเมืองคุ้นชิน แต่สำหรับคนต่างจังหวัดแล้ว นับเป็นเรื่องปกติสามัญ และไม่รู้สึกอึดอัด เพราะความไม่คับแคบของสถานที่โดยรวมมีผลต่อความรู้สึกมากมายนัก

เลือกออกกำลังกายแบบไหน 

  • ผมใช้ชีวิตในคอนโดฯ การเดินรอบลานจอดรถจึงเป็นทางเลือกที่ลงตัวที่สุด เพราะการเดินทำให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว และไม่ใช่การออกกำลังกายที่หนักเกินไปสำหรับคนอายุ 51 ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และเส้นเลือดขาตีบ

 

เมื่อทั่วโลก พ้นวิกฤต โควิด-19 แล้ว คุณอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเอง

  • การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายขึ้นคือสิ่งที่ผมกำลังศึกษา เพราะผมรู้สึกว่าโรคระบาดไม่ว่าจะเป็นโควิดหรือโรคอื่นที่จะมาในอนาคต ล้วนทำให้เรารู้ว่าในชีวิตเราจำเป็นหรือไม่จำเป็นอะไร การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายจึงเป็นการดำรงชีวิตบนพื้นฐานของสิ่งที่จำเป็นเพียงอย่างเดียว

หลังจาก “ปลดล็อค” หากให้คุณเลือกที่จะท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ไหน เพราะอะไร

  • คงไป เชียงใหม่ ทันที เพราะมีเพื่อนพี่น้องหลานคนย้ายไปอยู่กันเยอะ เมื่อไปถึงแค่ตระเวนคุยกันก็คงจะสนุกมากแล้ว

ตั้งรับอย่างไรกับการก้าวข้ามวิกฤตโควิด – 19 สู่ New Normal ผลต่อชีวิตคุณที่เปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม

  • ชีวิตที่ตั้งรับ และเฝ้ารอการช่วยเหลือ หรือดูทิศทางโดยไม่วางแผนไปต่อ ไม่น่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับโลกยุคหลังโควิด เพราะโควิดคือสัญญาณเตือนให้รู้ว่า ทุกสิ่งบนโลกสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ดังนั้น เราควรมองไปข้างหน้า ปรับตัว และลงมือทำในสิ่งที่คิดว่าจะทำให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ในอนาคตเสียตั้งแต่ตอนนี้ เช่นการอัพเกรดตัวเอง เพิ่มเติมความรู้ ฝึกฝนทักษะใหม่ๆ เป็นต้น

Passion to Inspiration :  แรงบันดาลใจในการทำสิ่งที่รัก

  • การอ่าน คือสิ่งที่ทำให้ใจบันดาลแรงเสมอมา (ย้ำนะครับว่า ใจบันดาลแรง) เพราะหนังสือเป็นแรงบันดาลใจให้ได้เริ่มทำงานเกี่ยวกับการสื่อสาร จนถึงวันที่จะแบ่งปันก็ยังคงใช้ความรู้จากการอ่านมาเป็นแรงบันดาลใจในการส่งต่อ

Key 2 Success : กุญแจแห่งความสำเร็จในการใช้ชีวิต

  • ทฤษฎี 3+1 C ที่ตัวเองคิด 555 ประกอบไปด้วย Content ที่เติม Creativity แล้วส่งต่อด้วย Connection  จากนั้นก็ต้องใช้ 1 C คือ Confident ในการลงมือทำให้สำเร็จ

อยากให้ส่งต่อความรัก ส่งต่อกำลังใจให้ใคร อย่างไรในช่วงวิกฤต โควิด-19

  • ยิ้มครับ เพราะการยิ้มคือสิ่งเดี่ยวที่มนุษยชาติสร้างกำลังในให้ตัวเองได้

อยากฝากอะไรทิ้งท้าย 

  • โรคระบาดอย่างโควิดไม่ใช่ปัญหา แต่การไม่ทำอะไรของตัวเองนั่นแหล่ะคือปัญหา

#Covid19
#SaveLife
#หยุดเชื้อเพื่อหมอ

สามารถติดตามข่าวสารของ Ride Explorer : Online Content Platform ไลฟ์สไตล์ การเดินทางท่องเที่ยว สร้างแรงบันดาลใจ ทั้งในและต่างประเทศ ได้ทาง www.ride-explorer.com
Facebookwww.facebook.com/rideexplorer
YouTubebit.ly/rideexplorer

 

Loading Facebook Comments ...

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here