ม้อด ธัญรัตน์  “Live this day as if it’s your last”

อย่าเสียเวลาไปโทษคนอื่น แล้วตัวเองไม่ทำอะไรเลย

แนะนำตัว

  • ธัญรัตน์  บุญญานุภาพพันธ์ (ม้อด) ค่ะ ปัจจุบันทำงานด้านเลขานุการ ที่ บมจ. ซีพี ออลล์  ขอเรียกตัวเองว่าเป็น สาวขาลุย ชื่นชอบในกีฬาประเภท Extreme และ Adventure ค่ะ  เป็นนักปั่นสาย Enduro และ XC สายฝุ่น ชอบความท้าทายในเส้นทางธรรมชาติ ทำให้ได้ฝึกการใช้ทักษะหลายๆ อย่าง และ ได้ท่องเที่ยวไปในตัวด้วยค่ะ

เมื่อเกิดวิกฤตโควิด 19 คุณมีมุมมองคิดบวกกับสภาวะนี้อย่างไร สอนอะไรให้กับเราบ้าง

  • เหตุการณ์นี้ทำให้เรารู้จักปรับตัว ทำอะไรที่นอกเหนือจาก Comfort Zone ที่คุ้นเคย  มันสอนให้เราได้ลองทำอะไรใหม่ๆ มีวิธีคิดใหม่ๆ ใช้ชีวิตแบบใหม่ๆ รู้จักตัวเองมากขึ้น และ หันมาใส่ใจตัวเอง และ คนรอบข้างมากขึ้น เราทำอะไรด้วยความระมัดระวัง และ รอบคอบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่าย และ การใช้ชีวิตประจำวัน ที่สำคัญไม่มีอะไรสำคัญกว่าการมีสุขภาพที่ดี ช่วงโควิด-19 รู้สึกว่าเราออกกำลังมากกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก ทั้งๆ ที่ไม่สามารถออกไปทำกิจกรรม Outdoor ที่ชื่นขอบได้อย่างเคย

เรามีทางออกในการเลือกใช้ชีวิต Work From Home อย่างไร

  • ที่บริษัทมีนโยบายให้พนักงานที่ออฟฟิศไปช่วยลงร้านเซเว่นอีเลฟเว่น อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1-2 วันค่ะ ส่วนวันอื่นก็เข้ามาทำงานที่ออฟฟิศตามปกติ  ตอนที่ไปลงร้านก็ไปช่วยปั่นจักรยานส่งสินค้าแบบเดลิเวอรี่ให้ลูกค้าในละแวกใกล้เคียง  รู้สึกว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ตัวเองมากๆ เพราะการที่ชอบปั่นจักรยานเป็นทุนเดิม และ ได้ทำความฝันที่อยากเป็น “Rider” สำเร็จ  เลยทำให้ยิ่งสนุกกับการทำงานค่ะ  ถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย

 

เมื่อมีโอกาส คุณได้สร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้ตัวเอง ครอบครัว และ สังคม คุณอยากทำอะไร

  • Pay it forward เป็นทฤษฎีง่ายๆ ที่เราทุกคนสามารถปฏิบัติโดยเฉพาะในช่วงวิกฤตที่กำลังเกิดขณะนี้  การส่งต่อความดีกระจายไปยังผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด เช่น บริจาคสิ่งของใส่ตู้ปันสุข หรือ งานจิตอาสา ล้วนทำให้ช่วยยกระดับความเป็นมนุษย์ในสังคมที่ต้องอยู่ร่วมกัน ทำให้โลกที่ดูน่ากลัวกลับน่าอยู่ขึ้น เราได้เห็นน้ำใจจากคนหนึ่งสู่คนต่อๆ ไปอย่างไม่สิ้นสุด อย่างน้อยก็เป็นภาพที่ทำให้เรามีรอยยิ้มได้เมื่อคนหนึ่งคนมีความสุขจากการได้แบ่งปัน อีกคนมีความสุขจากการเป็นผู้รับ และสักวันเมื่อเขามีโอกาสเขาก็จะกลายเป็นผู้ให้เช่นกัน   ถ้าเราทำได้แบบนี้ ไม่ว่าอนาคตจะต้องเจอกับวิกฤติที่หนักหนาสาหัสแค่ไหน เราก็จะฝ่ามันไปได้ เพราะเราจะนึกถึง “We” ไม่ใช่ “Me”

คิดอย่างไรกับการก้าวข้ามวิกฤต โควิด-19 สู่ New Normal ที่สิ่งเร้ารอบตัวในชีวิตคุณกำลังจะเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม

  • “ดีเนอะ” มันเหมือนเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ มีอะไรมากมายที่เราตัองปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์แบบใหม่ คนเราจะเรียนรู้และเติบโตได้ก็ต้องหัดทำอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา นี่คือการเอาตัวรอดหากต้องเจอวิกฤต ดีกว่าเสียเวลาไปโทษนั่นโทษนี่แล้วตัวเองไม่ทำอะไรเลย

เมื่อทั่วโลกพ้นวิกฤตโควิด-19 แล้ว คุณอยากจะ “ปลดล็อค” เปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเอง

  • จริงๆ ไม่ต้องรอให้โลกพ้นวิกฤตก่อนค่อย “ปลดล็อค” เราสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย สำหรับม้อดเอง สิ่งที่ได้ทำไปแล้วคือ การปรับ Mindset เมื่อก่อนก็เคยมีนิสัยเคยชินกับการทำอะไรเดิมๆ ทำตามสิ่งที่เราวางแผนไว้ พอโควิดมา มันต้องเปลี่ยน และ ต้องเร็ว อาจจะมีผิดพลาดบ้างแต่อย่างน้อยเราก็ได้ออกสตาร์ทก่อน ค่อยแก้ไขกันไประหว่างทาง สิ่งที่ต้องคิดอยู่ในหัวคือ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เราต้องคิดว่า “เราทำได้” และต้องพยายาม “ทำให้ดีที่สุด” มันจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ตัวเรา

หลังจาก Stay home หากให้คุณเลือกที่จะออกเดินทาง คุณอยากไปที่ไหน เพราะอะไร

  • เมือง Derby ในรัฐทาสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย  ตั้งใจจะเดินทางไปที่นี่ตั้งแต่ก่อนโควิด และ วางแผนล่วงหน้าเป็นปี แต่ก็ต้องยกเลิกทุกอย่างไปโดยไม่มีกำหนด   ที่อยากไปเพราะอยากไปขี่จักรยานที่เมืองนี้ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น “Best trails in the world” เป็นสวรรค์ของนักปั่นทั่วโลกที่ต้องไปสัมผัสครั้งหนึ่งในชีวิต  เมืองนี้เป็นเมืองจักรยานเสือภูเขาแห่งแรกของโลก และ ยังเป็นสนามจัดแข่ง Enduro World Series มาแล้ว มีความสวยงามทางธรรมชาติ และ การออกแบบเส้นทางที่ดีมากๆ  คือ ดูยูทูป แล้วชั้นต้องไปปั่นให้ได้ก่อนตาย 555

 

Passion to inspiration: แรงบันดาลใจในการทำสิ่งที่รัก

  • มีประโยคที่กล่าวไว้ว่า “Live this day as if it’s your last” ใช้ชีวิตให้เหมือนกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของคุณ เพราะเราอาจจะไม่มีโอกาสได้ทำมันอีก ดังนั้นเวลาจะทำอะไรก็จะสุดๆ กับทุกอย่างที่ทำแล้วเราก็จะไม่เสียดายมันเลย

Key 2 Success: กุญแจแห่งความสำเร็จในการใช้ชีวิต

  • ม้อดจะใช้หลักธรรม “อิทธิบาท 4” ในการใช้ชีวิต  จริงๆ มันก็คือ สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนว่าเป็นหลักพื้นฐานสู่ความสำเร็จ  ประกอบด้วย “ฉันทะ” (ความรักในสิ่งที่ทำ) “วิริยะ” (มีความขยันหมั่นเพียร) “จิตตะ” (เอาใจจดจ่อในสิ่งที่ทำอยู่) “วิมังสา” (ลองทำและหาทางปรับปรุงให้ดีขึ้น) มันใช้ได้กับทุกเรื่องไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เพื่อนๆ ลองเอาไปใช้กันดูนะคะ

Trick for life: คุณมีวิธีคิดอย่างไรในการใช้ชีวิต เมื่อคุณต้องเผชิญกับอุปสรรค

  • อย่างแรกเลยต้องคิดบวกไว้ก่อน คิดว่าเราต้องมีทางออก  เหมือนเวลาขี่จักรยานตาต้องมองที่ทางออก อย่ามองที่อุปสรรคเพราะมันจะทำให้คุณล้ม  ถ้ามัวแต่ไปโฟกัสที่อุปสรรคมันก็จะทำให้เราวนเวียนอยู่แต่ปัญหา มองไปทางไหนก็เจอแต่ปัญหา แต่ถ้ามองอุปสรรคเป็นความท้าทาย ชั้นจะหาทางข้ามมันไปให้ได้นะ หัวมันก็จะพยายามคิดเรื่องวิธีต่างๆ หรือ ทางเลือกอื่นๆ ให้เจอวิธีแก้ปัญหา/ทางออก
  • อย่างที่สอง คิดถึงบุญเก่าที่เคยทำมา เวลามีปัญหา สติสำคัญมาก สติมาคู่กับปัญญา ถ้าเราได้สวดมนต์ ทำใจให้สงบ นึกถึงบุญกุศลที่เคยได้ทำมา อธิษฐานขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านเมตตา บางทีปาฏิหาริย์ก็มีจริง

อยากให้ส่งกำลังใจให้กันและกันในช่วงโควิด-19

  • ก็ขอเป็นกำลังใจกับทุกๆ คนที่อาจจะกำลังมีทุกข์ ท้อแท้ หมดหวัง ให้ลองอ่านที่ม้อดเขียนข้างบนแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานบวกให้กับชีวิตฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันค่ะ สู้ๆ #เราต้องรอด

หากคุณเลือกได้ คุณอยากไป #ส่งต่อความรัก ให้กับใคร อย่างไร

  • #ส่งต่อความรักให้กับทุกคน ให้ช่วยกันดูแลตัวเองมีความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม โดยเริ่มที่ตัวเองค่ะ

อยากฝากอะไรทิ้งท้าย

  • แม้ว่าตอนนี้สถานการณ์ในบ้านเราจะเริ่มดีขึ้น  แต่ก็อย่าการ์ดตกนะคะ อย่ากลับไปทำอะไรแบบเดิมที่เคยชิน  บางพฤติกรรมเราต้องปรับเปลี่ยน  ใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท อย่าขาดสติ และ ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลาค่ะ

Facebook: Thanyarat Mod Bunyanuparparn

#Covid19
#SaveLife
#หยุดเชื้อเพื่อหมอ

สามารถติดตามข่าวสารของ Ride Explorer : Online Content Platform ไลฟ์สไตล์ การเดินทางท่องเที่ยว สร้างแรงบันดาลใจ ทั้งในและต่างประเทศ ได้ทาง www.ride-explorer.com
Facebookwww.facebook.com/rideexplorer
YouTubebit.ly/rideexplorer

 

Loading Facebook Comments ...

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here