The West Wind Trail 2019

เรื่อง : -เดอะ กุ่ย-

การวิ่งเทรลในประเทศไทยมีมานานหลายปีและการจัดงานวิ่งเทรลมีเพิ่มขึ้นทุกปี เท่าที่สังเกตุนั้น สุดสัปดาห์ผู้ชื่นชอบการออกกำลังกายได้โพสต์รูปวิ่งท่ามกลางธรรมชาติมาให้ชมกันอยู่บ่อย ๆ ถ้าได้ย้อนไปเมื่อห้าปีก่อนหน้านี้ ต้องยอมรับว่าเป็นปีของจักรยานทั้งในด้านธุรกิจและความนิยม เวลาเปลี่ยน ทุกอย่างเปลี่ยน สองสามปีที่ผ่านมา กระแสการวิ่งได้รับความนิยมมากขึ้น ส่วนจักรยานก็เงียบลงไป เมื่อได้สำรวจจากผู้ประกอบการและผู้บริโภค คำตอบที่ได้ไปในทางเดียวกันว่าเศรษฐกิจไม่ดี และเมื่อภาวะตลาดไม่ดี การจับจ่ายใช้สอยจึงลดลง เวลาในการออกกำลังกายจึงน้อยลงเพื่อใช้เวลาในการหาเลี้ยงปากท้องมากขึ้น กิจกรรมที่สะดวกเรียบง่ายและได้สุขภาพที่ดีจึงสมเหตุสมผล รองเท้าหนึ่งคู่กับเสื้อผ้าหนึ่งชุดสามารถออกกำลังกายได้ทันที เมื่อเทียบอุปกรณ์จักรยานที่ต้องบรรทุกไปด้วยนั้น ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้สายการบินในการโหลดอุปกรณ์กีฬา ค่ากระเป๋าใส่จักรยาน ความเสี่ยงด้านความเสียหายที่เกิดจากการขนส่ง ค่าโดยสารระหว่างสนามบินไปที่พักและสนามแข่งขันด้วยการเช่ารถยนต์ขนจักรยาน อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย เช่น ถุงมือ แว่นตา หมวกกันน็อก รองเท้า ที่สูบลม ยางใน ชุดปั่น เป็นสิ่งที่ต้องเตรียมให้ครบ ตัวผมเตรียมสิ่งเหล่านี้ในการไปแข่งจักรยานต่างภูมิลำเนามาทั้งชีวิต ประเด็นคือชอบและรักสิ่งที่ทำหรือไม่ ถ้าใจรักอุปสรรคใด ๆ ก็ไม่อาจขวาง แต่ถ้าพูดเรื่องความสะดวกต้องยอมรับว่าการวิ่งนั้น สะดวกกว่ากีฬาอื่น ๆ อย่างแท้จริง

ทำไมถึงเปรียบเทียบกับจักรยาน? เนื่องด้วยผู้ชื่นชอบการออกกำลังกายไม่ได้หลงรักกีฬาเพียงประเภทเดียว บางท่านชอบไตรกีฬา ว่าย ปั่น วิ่ง หรือบางท่านชอบวิ่งถนนแต่ไม่ชอบวิ่งเทรล แม้กระทั่งปั่นจักรยาน บางท่านชอบเสือหมอบทางเรียบแต่ไม่ชอบเสือภูเขาทางป่า ดังนั้น นิยามความชอบของแต่ละท่านไม่เหมือนกัน การเปรียบเทียบจึงสามารถอธิบายสไตล์เฉพาะตนได้อย่างชัดเจน ดั่งเช่นการเดินทางจากเชียงใหม่ไปเที่ยวปาย ส่วนตัวเกิดมากว่าครึ่งชีวิตเพิ่งได้มีโอกาสไปเที่ยวปายครั้งแรกเมื่อกลางปีนี้ด้วยการปั่นจักรยานจากเชียงใหม่ไปฟังเพลงแจ๊สที่ปาย ถัดจากนั้นอีกไม่กี่เดือนก็มีโอกาสไปเที่ยวปายด้วยรถยนต์หลังจากได้ร่วมกิจกรรมงานวิ่งแม่ฮ่องสอนครอสคันทรี่ และครั้งนี้เกือบจะมีโอกาสได้วิ่งจากเชียงใหม่ไปปายแต่ร่างกายและจิตใจยังไม่ด้านพอ

The West Wind Trail 2019 งานวิ่งเทรลที่จัดขึ้นครั้งแรกด้วยแรงบันดาลใจจากคุณอั๋น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ต้องการให้นักวิ่งได้มีโอกาสมาเที่ยวปายด้วยสองเท้าของตัวเอง ได้ชื่นชมธรรมชาติผ่านสายลมตะวันตก เส้นทางวิ่งมีอยู่ห้าระยะ ประกอบด้วย 110 กิโลเมตร 85 กิโลเมตร 60 กิโลเมตร 30 กิโลเมตร และ 12 กิโลเมตร ซึ่งแต่ละระยะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ตั้งอยู่ระหว่างทางเทรลจากเชียงใหม่ถึงปาย

The Journey 110 เป็นเส้นทางจากแม่แตงไปจบที่ปาย เริ่มต้นที่ อบต.กื้ดช้าง เส้นชัยตั้งอยู่ที่สะพานประวัติศาสตร์ปาย ระยะทางรวม 108.3 กิโลเมตร ความชันสะสม 5,024 เมตร ปล่อยตัววันที่ 5 ตุลาคม 2562 เวลา 9.00 น. ตัดตัวที่เส้นชัยเวลา 15.00 น. วันที่ 6 ตุลาคม 2562 ระหว่างเส้นทางวิ่งจะมีจุดตัดตัวทั้งหมด 8 จุด (A1-A8) ซึ่งนักวิ่งต้องผ่านจุดดังกล่าวให้ทันเวลาที่กำหนดให้ และเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ระยะนี้เป็นระยะที่นักวิ่งสมัครมากที่สุดเกือบ 200 คน เช้าวันที่ 5 ตุลาคม 2562 เวลา 9.00 น. นักวิ่งทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ถูกปล่อยตัวไปพิชิตความฝันตามวัตถุประสงค์ของแต่ละคน จากจุดแรกไปจุดสองคือสถานีวิจัยเกษตรมีระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ขึ้นเขายาวๆ ชมวิวทิวทัศน์ซึ่งยากจะปฏิเสธที่สวยงามของมันได้ จากจุดที่สองไปจุดที่สามคือสะพานแขวนมีระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร ลักษณะเส้นทางแนว Rolling ผสม Downhill พื้นผิวลูกรัง สลับร่องน้ำ สภาพอากาศครบรสแดดร้อนผสมฝนตก วิ่งผ่านดินแดงและลำธาร ระหว่างเส้นทางระหว่างจุดที่สามไปจุดที่สี่คือเมืองคอง ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร จะเห็นยอดห้วยน้ำดังอีกฝั่งจากที่ยืนอยู่ นักวิ่งสามารถดื่มดำไปกับความสวยงามของธรรมชาติตลอดเส้นทาง ณ เมืองคอนซึ่งจะมีข้าวไข่พะโล้ให้นักวิ่งได้เติมพลังงานเพื่อก้าวไปยังจุดหมายข้างหน้าต่อไปซึ่งเป็นครึ่งทางของเส้นทางเชียงใหม่-ปายเส้นนี้ สภาพเส้นทาง Rolling เพื่อไปขึ้นเขาอีกครั้ง จากจุดที่ห้า ณ ครึ่งทางไปสู่ห้วยน้ำดังซึ่งเป็นจุดที่หกนั้น ขึ้นเขายาวๆ วิ่งฝ่าหมอกไปรับ Drop bag ที่นักวิ่งแต่ละท่านได้เตรียมและฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ จุดนี้แกงจืดเต้าหู้ไว้เติมพลังอีกครั้ง ต่างคนต่างมีเวลาตั้งหลัก บางคนก็พักผ่อน บางคนก็จัดแจงอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้วไปต่อยังจุดที่เจ็ดซึ่งเป็นขุนแม่ยะ เส้นทาง Downhill ประมาณ 15 กิโลเมตร จากขุนแม่ยะต้องวิ่งต่อไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตรจนถึงจุดที่แปดคือแม่ยะน้อย ต่อด้วยลงเขา Technical Trail ข้ามน้ำฝ่าดงจนถึงจุดชมวิวซึ่งเป็นจุดสุดท้ายก่อนถึงเส้นชัย ระยะทางเหลืออีก 5 กิโลเมตร ซึ่งผ่านหมู่บ้านและทุ่งนาจนถึงสะพานประวัติศาสตร์ปาย ครั้งแรกของสนามวิ่งเทรลที่เริ่มจากเชียงใหม่ไปปายสิ้นสุดที่ตรงนี้ ผู้พิชิตเกือบสองร้อยชีวิตถึงเส้นชัยตามเวลาที่กำหนด 165 คน ส่วนอีก 28 คน DNF

Huai Nam Dang 85 เส้นทางจากสะพานประวัติศาสตร์ปายวิ่งไปกลับตัวที่ห้วยน้ำดังแล้วมาจบที่เดิม ระยะทางรวม 85 กิโลเมตร ความชันสะสม 3,303 เมตร ปล่อยตัววันที่ 5 ตุลาคม 2562 เวลา 7.00 น. ตัดตัวที่เส้นชัยเวลา 8.00 น. วันที่ 6 ตุลาคม 2562 ระหว่างเส้นทางวิ่งจะมีจุดตัดตัวทั้งหมด 8 จุด นับว่าเป็นระยะที่เน้นชื่นชมความอลังการของห้วยน้ำดังโดยการวิ่งไปเยี่ยมเยียนและวิ่งกลับทางเดิม จำนวนนักวิ่งที่สมัครระยะนี้อาจจะน้อยสุด แต่ทั้ง 40 ชีวิต วิ่งจบทุกคน นักวิ่งได้วิ่งย้อนเส้นทาง The Journey 110 ไปจนถึงห้วยน้ำดังแล้วกลับตัวเส้นทางเดิมมายังสะพานประวัติศาสตร์ปาย โดยผ่านจุดชมวิว แม่ยะน้อย ขุนแม่ยะและห้วยน้ำดัง เวลาตัดตัวรวมอยู่ที่ 25 ชั่วโมง การที่ไม่มีท่านใด DNF สะท้อนให้เห็นได้ว่า การวิ่งด้วยกันนั้นวิ่งได้ไกล

Doi Mieng 60 เส้นทางจากสะพานประวัติศาสตร์ปายวิ่งไปกลับตัวที่หยุ่นไหลโดยเส้นชัยกับจุดสตาร์ทอยู่ที่เดียวกัน ระยะทางรวม 63.1 กิโลเมตร ความชันสะสม 3,298 เมตร ปล่อยตัววันที่ 5 ตุลาคม 2562 เวลา 6.00 น. ตัดตัวที่เส้นชัยเวลา 23.00 น. ในวันเดียวกัน ระหว่างเส้นทางวิ่งจะมีจุดตัดตัวทั้งหมด 6 จุด เริ่มต้นที่จุดแรกคือแผ่นดินแยก ระยะทางจากเส้นสตาร์ทประมาณ 8.5 กิโลเมตร ผ่านกองแลนซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นปายแคนยอนที่ชาวต่างชาตินิยมมานั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นและดูดวงตะวันตกดิน เส้นทางผ่านทุ่งนามีดอกไม้เล็กให้ชมอยู่เรื่อย ๆ จากแผ่นดินแยกวิ่งสู่สะพานบุญยิงยาวขึ้นเขาไปถึงแยกดอยเมี่ยงกว่า 11 กิโลเมตร ที่จุดเช็คพอยมีข้าวไข่พะโล้ไว้เติมพลังเพื่อเตรียมขึ้นเขาชันประมาณ 2 กิโลเมตร แล้ววิ่งลงไปที่หยุ่นไหลซึ่งเป็นจุดกลับตัว ระยะทางลง 8 กิโลเมตร นักวิ่งสำรวจพื้นที่ไว้เรียบร้อยว่าจะต้องเจอสภาพเส้นทางแบบไหนเมื่อต้องวิ่งกลับขึ้นมาอีก 8 กิโลเมตร Doi Mieng Repeat! หลายท่านตัดสินใจ DNF ที่หยุ่นไหลเพราะรู้ว่าข้างหน้าต้องทรมาณจับใจ นักวิ่ง 70 ชีวิตวิ่งกลับไปสู่เส้นชัยโดยผ่านแยกดอยเมี่ยงไปสู่อ่างเก็บน้ำ ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร และวิ่งกลับสะพานประวัติศาสตร์ปายเลยโดยไม่ต้องแวะแผ่นดินแยก ในระยะนี้มีนักวิ่ง 24 ท่าน DNF ต้องยอมรับว่าเป็นระยะทางที่ไม่ไกลแต่โหดได้ใจจริงๆ

Sightseeing 30 เส้นทางจากสะพานประวัติศาสตร์ปายวิ่งชมธรรมชาติ ณ จุดสำคัญๆ ของปายและวนกลับมาที่เดิม ระยะทางรวม 28 กิโลเมตร ความชันสะสม 831 เมตร ปล่อยตัววันที่ 6 ตุลาคม 2562 เวลา 6.00 น. ตัดตัวที่เส้นชัยเวลา 14.00 น. ในวันเดียวกัน ระหว่างเส้นทางวิ่งจะมีจุดตัดตัวเพียงแค่ 2 จุด จุดแรกคือแผ่นดินแยก จุดที่สองคืออ่างเก็บน้ำ เส้นทางนี้ผู้จัดมีวัตถุประสงค์ให้นักวิ่งได้ชมวิวทิวทัศน์ เป็นระยะกำลังดีสำหรับมือใหม่ซึ่งจะได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองได้เต็มที่โดยไม่ต้องรีบร้อน เส้นทางจะเป็นเส้นเดียวกันกับ Doi Mieng 60 แต่ไม่ต้องไปเยี่ยมเยียนดอยเมี่ยงและหยุ่นไหล อากาศช่วงเช้าตอนปล่อยตัวนับว่าดีมากแต่จะมาร้อนช่วงเก้าโมงเช้าเป็นต้นไป จากเส้นสตาร์ท วิ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองปายประมาณหนึ่งโลครึ่งแล้ววิ่งขึ้นบันไดผ่านปายแคนยอนมุ่งหน้าสู่แผ่นดินแยกระยะทางจากเส้นสตาร์ทประมาณ 8.5 กิโลเมตร ต่อด้วยวิ่งขึ้นเขาไปสู่สะพานบุญโขกู้โส่หักเข้าทางเทรลในป่าระยะทางพอสมควรแล้วลงยาวๆ จนถึงอ่างเก็บน้ำย้อนกลับทางเดิมแต่ไม่ต้องผ่านแผ่นดินแยกเช่นกัน ระยะนี้นักวิ่งทั้ง 149 คน วิ่งจบทุกคน สมกับเป็นเส้นทางที่ได้ชื่อว่า Sightseeing โดยแท้

Mae Ping 12 เส้นทางจากสะพานประวัติศาสตร์ปายวิ่งไปที่จุดชมวิวแล้ววนกลับมาที่เดิม ระยะทางรวม 10.8 กิโลเมตร ความชันสะสม 303 เมตร ปล่อยตัววันที่ 6 ตุลาคม 2562 เวลา 7.00 น. ตัดตัวที่เส้นชัยเวลา 10.00 น. ในวันเดียวกัน ระหว่างเส้นทางวิ่งจะมีจุดตัดตัวเพียงแค่จุดเดียวคือที่จุดชมวิวห่างจากเส้นสตาร์ท 5.4 กิโลเมตร ระยะนี้ดีต่อใจ นักวิ่ง 54 ท่านวิ่งจบทุกคนเช่นกัน

สายลมตะวันตกพัดพานักวิ่งผู้มีใจรักการเดินทางด้วยสองเท้าของตัวเองให้มารวมตัวกัน ณ สะพานประวัติศาสตร์ปาย แม้จะเดินทางผ่านระยะทางที่แตกต่างกัน แต่ทุกท่านได้พกไปรษณียบัตรที่ระบุระยะทางของตัวเอง เขียนความในใจเพื่อส่งต่อไปยังที่หมายปลายทางของแต่ละคน หลายท่านอาจเคยพิชิตการวิ่งเทรลร้อยโลมาแล้ว และหลายท่านก็ยังไม่เคย The West Wind Trail 2019 ถือได้ว่าเป็นงานวิ่งที่แฝงไปด้วยความท้าทายใหม่ๆ บนเส้นทางที่ยังไม่เคยมีใครวิ่งผ่านอย่างเป็นทางการมาก่อน ด้วยเสน่ห์การวิ่ง กลุ่มนักวิ่งผลักดันให้เกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ สร้างสรรค์กิจกรรมวิ่งผ่านเส้นทางใหม่ๆ ตามความฝันที่เหมือนๆ กัน จนเป็นงานวิ่งที่เติมเต็มความฝันของนักวิ่งหลายๆ คน

บางท่านก็สมัครใจมาวิ่งโดยผ่านการซ้อมอย่างมีระบบ ในขณะที่บางท่านถูกป้ายยาแล้วก็เลยตามเลย ไม่ต่างจากอุปกรณ์ที่ใช้ในการวิ่งที่เรียกกันว่าของมันต้องมี จำเป็นหรือไม่จำเป็นไม่แน่ใจ แต่การเติมเต็มกิเลสนั้นก่อให้เกิดความสุขในระยะสั้นได้ชั่วคราวอย่างแน่นอน นี่คืออรรถรสของชีวิต มนุษย์มีความฝันให้เติมเต็ม ในเส้นทางเดียวกัน มุมมองความคิดความอ่านอาจเหมือนกันและแตกต่างกัน ดั่งเส้นทางธรรมชาติผ่านสามลมตะวันตก เชื่อว่าทุกท่านคงพบความสุขจากจุดเริ่มต้น ระหว่างทาง และปลายทาง ในแบบของตัวเอง

สำหรับผมแล้ว การวิ่งครั้งนี้ทำให้มีโอกาสได้ไปเที่ยวในสถานที่สำคัญของอำเภอปายด้วยการเดินเท้า นับว่าเป็นสถานที่เที่ยวที่นักท่องเที่ยวต้องไปเยี่ยมเยียนเป็นส่วนใหญ่เพื่อจะเรียกได้ว่ามาเที่ยวปายอย่างสมบูรณ์ เปลี่ยนจากนั่งรถไปเป็นวิ่งไปแทน ได้เห็นบรรยากาศสองข้างทางอย่างเต็มอิ่ม วิ่งผ่านเส้นทางภูเขาที่แม้แต่จักรยานเสือภูเขาก็ปั่นได้ยาก ได้อยู่กับตัวเองและมีเพื่อนร่วมทางในบางช่วง ได้ทักทายกับชาวบ้าน และได้ประสบการณ์ใหม่ๆ และเห็นความแตกต่างผ่านเส้นทางที่หลากหลายในแต่พื้นที่ของประเทศไทย

 

Loading Facebook Comments ...

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here