HOW TO Zwift เปิดเทคนิคการเตรียมพร้อมสู่โลก

E-Cycling  

ก่อนชม E-Cycling Race : E-Club Race

ในสนามผู้หญิงครั้งแรก 28 มีนาคมนี้

ในขณะที่สิ่งแวดล้อมตอนนี้เต็มไปด้วยมลภาวะ และ covid-19 ทำให้เพื่อนนักปั่นหลายท่านเป็นกังวลและไม่อยากที่จะออกไปปั่นจักรยานนอกบ้าน หลายคนได้ชม Live เมื่อกิจกรรมการแข่งขันในสนามแรก ในการแข่งขัน E-Cycling race : E Club Race ผ่านทางช่องทาง Zwift ที่ผ่านมา ภายใต้การร่วมมือกันระหว่างพันธมิตรกลุ่ม ESports และพันธมิตรสายจักรยาน โดยมี NEX (บริษัท เน็กซ์ สตูดิโอ โปรดักชั่น จำกัด) , Intersen 99 (บริษัท อินเตอร์เซน 99 จำกัด) , Ride Explorer (บริษัท ไลน์ อาร์ท โปรดัคชั่น จำกัด) Sport Bicycle (บริษัท สปอร์ตไบซิเคิล จำกัด) MOVE (บริษัท มูฟไซคลิ่งโปรดักส์ จำกัด)  และ Good Job Cycling (กู๊ดจ๊อบไซคลิ่ง)

ในสนามแรก ที่ Thailand Continental Cycling Team มาสาธิตการขี่จักรยานในรูปแบบของ E-Cycling เพื่อที่จะยกระดับขึ้นเป็นการแข่งขัน Esports โดยการปั่นจักรยานบน Smart Trainer และ เชื่อต่อกับโปรแกรม Zwift โค้ชปุ๋ย สาโรช กาญจนนนท์ โค้ชทีมชาติเนปาล และเจ้าของ Goodjob Cycling ที่จะมาให้ข้อมูลการเตรียมพร้อมให้กับผู้ชม และผู้เข้าร่วมสู่สนามการแข่งขัน E-Cycling race : E Club Race ครั้งนี้

 

การเข้าสู่โลกของ Zwift จะต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง แน่นอนต้องมี
1. จักรยาน จะต้องเป็นจักรยานที่สามารถติดตั้งบนเทรนเนอร์ได้ ไม่จำกัดประเภทจักรยาน
2. เทรนเนอร์ ไม่จำกัดรูปแบบของเทรนเนอร์ อาทิ แบบ 3 ลูกกลิ้ง, แบบจับดุมล้อหลัง หรือ แบบถอดล้อหลัง ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้ง Classic Trainer และ Smart Trainer
3. ในกรณีที่ใช้ Classic Trainer ต้องมีอุปกรณ์เพิ่มเติม คือ เซนเซอร์วัดรอบขา (Cadence Sensor), เซนเซอร์วัดความเร็ว (Speed Sensor), เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heartrate Sensor) หรือ ใครที่ใช้ Power Meter สามารถส่งข้อมูลเข้าไปใน Zwift ได้ แต่หากไม่มี Power Meter  ในโปรแกรม Zwift จะนำข้อมูลอื่น ๆ ไปคำนวณเป็นค่า Power ได้เช่นกัน
4. อุปกรณ์รับสัญญาน ANT+ หรือ Bluetooth หากอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการวัดค่าเป็นสัญญาน ANT+ จำเป็นที่จะต้องมีอุปกรณ์รับสัญญาณ USB ANT+ (ANT+ Reciever) แต่หากอุปกรณ์ส่งสัญญานเป็น Bluetooth ไม่จำเป็นต้องใช้ Bluetooth Reciever หาก Devices ที่นำมาใช้เปิด Zwift สามารถรับสัญญาน Bluetooth ได้

  1. Device ที่นำมาใช้เปิดโปรแกรม Zwift สามารถใช้ได้ทั้ง PC, Notebook โดยมีการกำหนด Spec ไว้ดังนี้

Spec ขั้นต่ำ                                                              Spec แนะนำ

ระบบปฏิบัติการ : Windows 7                                       ระบบปฏิบัติการ : Windows 10 ขึ้นไป

CPU: Intel Core 2 DUO                                            CPU: Intel Core I5, AMD Athlon ขึ้นไป

RAM: 4 GB                                                             RAM: 8GB

GPU: ออนบอร์ด 1GB                                                  GPU: 2GB Radeon R9 200 Series

GTX 650ขึ้นไป

Monitor: ทั่วไป                                                        Monitor: 24” 60hz

นอกจากนี้โปรแกรม Zwift ยังสามารถจะรันได้บนมือถือและแทบเล็ตในระบบ IOS 9.0 ขึ้นไปและ แอนดรอยด์ 7.0 ขึ้นไป แต่ถ้าหากต้องการเพิ่มอรรถรสในการเล่นความคมชัดระดับ 4K โปรแกรม Zwift ยังสามารถเปิดบน Apple TV Gen 4 ขึ้นไปได้อีกด้วย

หลายคนเข้าใจว่าการเข้าสู่โลกของ Zwift จะต้องใช้ Smart Trainer เท่านั้น ซึ่งจริง ๆ แล้ว Trainer แบบธรรมดาก็สามารถที่จะใช้ในการเล่น Zwift ได้เช่นกันถ้าเรามีอุปกรณ์ครบตามข้างต้น เพียงแต่เวลาที่ในโปรแกรมเป็นเนินหรือทางขึ้นเขา Smart Trainer จะปรับความหนักขึ้นตามค่าเปอร์เซ็นต์ของความชันได้ใกล้เคียงกับการขี่ขึ้นเขาจริง ๆ ในขณะที่เทรนเนอร์ปกติจะไม่มีการปรับหนักตามค่าความชัน แต่โปรแกรม Zwift จะทำการคำนวณข้อมูลต่าง ๆ และลดค่าความเร็วในเกมลงเพื่อให้ผู้ขี่ต้องออกแรงเพิ่มมากขึ้น ถึงจะขี่ตามคนที่ใช้ Smart Trainer ได้ แต่เชื่อว่าหากได้ลองปั่นบน Smart Trainer แล้วคงต้องอยากมีไว้ครอบครองแน่นอน ซึ่ง Smart Trainer จะมี 2 แบบ หลักๆ คือแบบจับดุมหลัง แล้วมีตัวปรับความหนืดมาจับที่หน้ายาง กับ แบบ Direct Drive หรือแบบถอดล้อหลัง จะเลือกใช้แบบไหนขึ้นอยู่กับงบประมาณได้เลยครับ ซึ่งสเปกของ Smart Trainer ที่เราจะต้องดูคือค่า Maximum Power ที่รองรับได้ หากใครที่เป็นขาแรงกดหนักก็ควรจะต้องดูรุ่นที่รองรับ Maximum Power ที่สูงมากพอ กับค่า  Simulate the Maximum slope คือค่าที่จำลองความชันได้กี่เปอร์เซ็นต์

ในโปรแกรม Zwift ยังสามารถที่จะเขียนคอร์สซ้อมเองได้อีกด้วย โดยจะมีทั้งคอร์สซ้อมมาตรฐานที่ทาง Zwift ได้เตรียมไว้ หรือ จะเขียนคอร์สซ้อมตามที่โค้ชได้กำหนดไว้ให้ก็ยังได้ สำหรับผู้ชมหรือนักแข่งที่สนใจอยากสอบถามข้อมูลการเตรียมพร้อมสู่สนามการแข่งขัน E-Cycling Race ครั้งนี้ได้ทางเพจของโค้ชปุ๋ย สาโรช ที่แฟนเพจ Goodjob Cycling : Bike Coaching Fitting and Service

ทั้งนี้ในวันเสาร์ที่ 28 มีนาคมนี้ ที่ NEX Studio จะมีกิจกรรมการแข่งขัน E-Cycling Race : E Club Race ภายใต้การร่วมมือของพันธมิตร ESport และจักรยาน และเป็นการเปิดสนามครั้งแรกของนักแข่งหญิงสมัครเล่น จากทีมจักรยานชื่อดังถึง 6 ทีม โดยมี KOM KOM , Venn Cycling , ENKKU, Kitchen Queen , Singha DTK และ Lenso Cycling Team ที่จะมาร่วมแข่งขันกันในโปรแกรม Zwift ในรูปแบบของ Esports จะสนุกตื่นเต้น แค่ไหน อยากชวนผู้ชมและผู้ที่สนใจ ติดตามชมการแข่งขันได้ทาง Facebook แฟนเพจ : Ride Explorer และ ช่องทาง Twitch : NEX Studio พร้อมสามารถติดตามข้อมูลนักแข่งใน E-Cycling Race : E-Club race ในกิจกรรมการแข่งขันครั้งนี้ได้ทาง www.ride-explorer.com และสำหรับผู้ที่สนใจอุปกรณ์ Smart Trainer และอุปกรณ์ Gadget จักรยาน สำหรับ E-Cycling Race สามารถสอบถามได้ทาง Sport Bicycle (พัฒนาการ 58)  โทร. 02 095 3550 และ  www.sportbicycle.co.th/dealer

Loading Facebook Comments ...

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here