Bike Finder : EP2 ภารกิจ ตามหา ต้นน้ำโขง

ใน EP. 2 มาตามการเดินทางของพวกเรา Bike Finder กันต่อ หลังจากที่ได้ปฏิบัติภารกิจ ตามหา ต้นน้ำโขง กันสำเร็จเป็นที่เรียบร้อย โดยทั้งนี้ เราก็ยังเดินทางในเส้นทางคาราวานรถยนต์ ไปกันที่ ภูเขาหิมะมังกรหยก ที่ขึ้นชื่อลือชาถึงความสวยงามในธรรมชาติของที่นี่ รวมถึงความหนาวเหน็บและอากาศที่ผันแปร บนความสูงระดับน้ำทะเลถึง 5,596 เมตร

ภูเขาหิมะมังกรหยก ในภาษาจีน 玉龍雪山 หรือเรียกว่า Yùlóngxuě Shān เป็นเทือกเขาขนาดเล็กที่อยู่ใกล้กับเมืองลี่เจียง ในมณฑลยูนนาน ตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ยอดเขาที่สูงที่สุดมีชื่อว่า ซ่านจีโด่ว 扇子陡 หรือ Shànzi Dǒu โดยทิวทัศน์ของเทือกเขาที่มองจากสวนสระมังกรดำ ถือว่าเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของจีน

ในครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ ทางอุทยานฯ อนญาตให้กระเช้าได้ขึ้นไปสัมผัสความหนาวสุดขั้ว ณ จุดสูงสุดบนภูเขาหิมะมังกรหยก ลม ฟ้า อากาศที่นี่มีความแปรผันตลอดเวลา ถือเป็นโชคดีของพวกเราที่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวที่มีประสิทธิภาพดีไปด้วย เป็นเสื้อกันหนาวที่ป้องกันอากาศหนาวได้สูงถึง – 15 องศา จาก Equinox ของ Outdoor Innovation ไปด้วย ต้องขอขอบคุณพี่หน่อง มา ณ ที่นี้ มิฉะนั้นต้องใช้บริการเช่าเสื้อหนาว ที่ทางภูเขาหิมะมังกรหยก จัดเตรียมไว้ให้โดยมีค่าใช้จ่ายตัวละ 50  หยวน และสำหรับคนที่ไม่มั่นใจเรื่องระบบการหายใจ หรือแพ้ภัยความกดอากาศ ของตัวเอง แนะนำให้ติดกระป๋องออกซิเจนไว้ตลอดเวลา (ถ้าซื้อในพื้นที่ราคาตกราคากระป๋องละ 15-20 หยวน) หลังจากได้ชมบรรยากาศ สัมผัสอุณหภูมิแสนยะเยือกของ ภูเขาหิมะมังกรหยก กันไปเป็นทีเรียบร้อยแล้ว

เราก็ไปชมการแสดงของผู้กำกับชื่อดัง จางอี่โหมว ที่นำฉากหลังความอลังการของภูเขาหิมะมังกรหยกมาเป็นเวทีในการเล่าเรื่องการแสดงเรียกความตื่นตาให้กับนักท่องเที่ยวที่ซื้อแพคเกจมาชมกันเป็นอย่างดี ในราคาเข้าชมคนละ 190 หยวน ทั้งนี้ไม่รวมค่าบำรุงเมือง 80 หยวน ค่าเข้าอุทยาน 105 หยวน ค่ารถบัสภายในอุทยาน 20 หยวน ค่ากระเช้าไฟฟ้า 180 หยวน ยังไม่รวมค่ากิน ค่าขนม ค่าน้ำดื่มของแต่ละคน การขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยก อย่างต่ำๆ ค่าใช้จ่ายต่อคนโดยประมาณ 700 – 800 หยวน และไม่รวมคนที่นำรถยนต์เข้ามาในอุทยานฯ อีกด้วย

ส่วนวัดต้าฝ่อ อยู่ใจกลางย่านเมืองเก่าแชงกรีล่าเลย สามารถเดินขึ้นไปชมทิวทัศน์ด้านบนแบบมุม 360 องศา พร้อมยังเปิดให้นักท่องเที่ยว รวมถึงคนในพื้นที่ได้เข้ามาหมุนกงล้อมนตราที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อความเป็นสิริมงคลสำหรับผู้เดินทาง โดยการหมุนกงล้อมนตราแต่ละครั้งต้องรวมพลังถึง 10 คนจึงจะหมุนกงล้อมนตราได้ครบรอบ ตอนกลางคืนมีการเปิดไฟประดับสวยงามมาก ควรแวะมาชมทั้งเวลากลางวันและกลางคืนถึงจะได้ครบอรรถรสในการเดินทาง

หลังจากนั้น เราก็เดินทางกันต่อที่เมืองมรดกโลกลี่เจียง เป็นอีกเมืองที่นักอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมจะต้องชื่นชอบ โดยย่านเมืองเก่าลี่เจียงมีประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปได้มากกว่า 800 ปี และเคยเป็นจุดแลกเปลี่ยนค้าขายสินค้าตามเส้นทางสาย Tea Horse สายเก่า ย่านเมืองเก่านี้มีชื่อเสียงจากคูคลองและสะพานที่มีอยู่มากมาย จนได้รับการขนานนามว่า “เวนิสแห่งตะวันออก”

โดยเมืองเก่าลี่เจียง (ต้าเหยียน ไป๋ซา และซูเหอ) ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ในปี 2540 ซึ่งเมืองเก่าลี่เจียง ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมแตกต่างไปจากเมืองโบราณอื่นๆของจีน เนื่องจากเป็นเมืองที่เป็นที่ตั้งรกรากของชาวน่าซีมาตั้งแต่สมัยโบราณนั่นเอง

สำหรับที่นี่ เป็นเมืองโบราณที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วมุมโลก ทำให้ชาวเมืองเกรงว่ากระแสการท่องเที่ยวและการพัฒนาที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว จะทำให้เมืองนี้สูญเสียเอกลักษณ์และมนต์เสน่ห์ที่น่าประทับใจไป ชาวเมืองผู้อาศัยในชุมชนเมืองเก่าลี่เจียงมีการจัดระบบระเบียบ เพื่อรักษาและอนุรักษ์ เมืองมรดกโลกให้คงอยู่อย่างยั่งยืน

 

Loading Facebook Comments ...

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here