เยือน ‘อู่ฮั่น’ ชิคาโก แห่งเอเชีย 

พร้อมสัมผัส Donghu Greenway

ทางจักรยานที่ดีที่สุดในจีน

 หลาย ๆ คนใฝ่ฝันว่าอยากจะออกเดินทางปั่นจักรยานต่างประเทศ ปั่นจักรยานในสถานที่ที่สวยงามและปลอดภัย วันนี้ พวกเรา Bike Travel ได้รับเกียรติจาก Seasons Holiday และสมาคมจักรยานอู่ฮั่น รวมถึงพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็น Trip Planner, 365 Travel, Double enjoy, Tourkrub และ เพจ สปอร์ตเกิร์ล by Thipwalee ที่จะพาพวกเราไปเปิดประสบการณ์สร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางและสำรวจเส้นทางปั่นจักรยาน ณ เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน

โดยการเดินทางครั้งนี้พวกเราได้นัดหมายกันที่สนามบินดอนเมืองตั้งแต่เช้าตรู่ โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD570 สนามบินดอนเมือง – อู่ฮั่น สำหรับการขนจักรยานขึ้นเครื่องบิน จะต้องซื้อน้ำหนักประเภทเครื่องกีฬาขั้นต่ำจะอยู่ที่ 20 กิโลกรัม

นอกจากนี้ยังต้องแพ็คจักรยานใส่กระเป๋าให้มิดชิด ประเภทที่เหมาะสมสำหรับการขนจักรยานขึ้นเครื่องแนะนำให้เป็นกระเป๋าจักรยานแบบ Hard Case หรือ กระเป๋าจักรยานที่มีโครงป้องกันการกระแทก ที่สำคัญจะต้องปล่อยลมจักรยานออกให้หมด เนื่องจากบนเครื่องมีความกดอากาศอาจทำให้ล้อจักรยานระเบิดได้

เตรียมขึ้นเครื่องแล้ว

เจอกันอีกทีที่ “อู่ฮั่น” ครับ

เมื่อเดินทางไปสนามบินนานาชาติอู่ฮั่น ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้ คือความใหญ่โตของเมือง “อู่ฮั่น” ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ตั้งอยู่ตอนกลางของแม่น้ำแยงซีเกียง มีพื้นที่ประมาณ 8,467 ตร.กม. มีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 8 ล้านคน มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,500 ปี

ใหญ่โตสมเป็นเมืองเอกของมณฑลหูเป่ย

ออกจากสนามบินในเวลาใกล้เที่ยง ก็มุ่งหน้ายังไปภัตตาคาร “ย่าเหอ ยุ่ยจิ่ง ฮั่วหยวน” เพื่อรับประทานอาหาร จากที่เคยรับประทานอาหารจีนมาส่วนใหญ่จะจืด แต่พอมาสัมผัสอาหารที่อู่ฮั่นแล้ว ความคิดเปลี่ยนไปทันที อาหารที่นี่รสชาติจัดจ้านกำลังดี ถูกปากพวกเรามากเลยครับ

อาหารจีน ภัตตาคาร ย่าเหอ ยุ่ยจิ่ง ฮั่วหยวน

อาหารจีน ภัตตาคาร ย่าเหอ ยุ่ยจิ่ง ฮั่วหยวน

หลังจากนั้นเราเดินทางไปไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยกันที่วัด กุยหยวน ซึ่งวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ มีอายุราว 300 กว่าปี ถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ 1 ใน 4 ในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งมีตำนานเล่ากันว่า

“เมื่อช่วงสงครามในบริเวณวัดกุยหยวน ก่อนเคยเป็นสนามรบจึงมีคนตายเป็นจำนวนมาก เจ้าอาวาสไป๋กวงเดินทางผ่านมาจึงจัดทำพิธีให้ จนได้มาพบกับเจ้าแผ่นดินที่ได้รับบาดเจ็บนิ้วขาด จึงขอให้เจ้าอาวาสต่อนิ้วให้และสำเร็จ จึงตอบแทนด้วยการสร้างวัดกุยหยวนนั่นเอง”

นอกจากนี้วัดกุยหยวนยังมีวิหารพระอรหันต์ 500 องค์ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1954 สิ่งที่น่าสนใจคือการเสี่ยงเซียมซีของที่นี่จะมีทั้งหมด 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 การนับพระอรหันต์ตามอายุ ผู้ชายจะนับวนไปทางซ้าย ส่วนผู้หญิงจะนับวนไปทางขวา เมื่อนับครบตามจำนวนแล้ว จะพบกับหมายเลขสีน้ำเงิน นำหมายเลขไปรับคำทำนาย ส่วนวิธีที่ 2 หากเราชอบพระอรหันต์องค์ใด ให้เริ่มนับย้อนกลับไปตามจำนวนอายุของเราเมื่อได้หมายเลขให้ไปรับคำทำนาย โดยจะต้องจ่ายเงินค่าคำทำนายเป็นเงิน 10 หยวน (50 บาท) ตรงทางออก เมื่อเดินมาอีกนิดจะพบกับ “วิหารหมื่นองค์” เป็นพระหยกสีขาว และยังประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมหยกนับพันองค์ในวิหารนี้อีกด้วย ต่อมาเดินออกมาด้านนอกจะพบกับเจ้าแม่กวนอิมสูง 18.8 เมตร ตั้งเด่นเป็นสง่าให้นักท่องเที่ยวและชาวเมืองอู่ฮั่นได้กราบไหว้อีกด้วย

เวลาในตอนนี้ก็เป็นช่วงเย็น เรามุ่งหน้าสู่ถนน “ฮู่ปู้เซี่ยง” ที่มีขายสตรีทฟู๊ดขายอาหารท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น “บะหมี่งา เต้าหู้เหม็น คากิ หรือหอยผัดหมาล่า” และอาหารอื่น ๆ มีอีกมากมาย  สำหรับใครที่เป็นคอสตรีทฟู๊ดขอบอกว่าฟินแน่นอนครับ พออิ่มกันแล้วก็กลับเข้าที่พักเพื่อพักผ่อนเอาแรงเพราะในตอนเช้าเรามีภารกิจปั่นจักรยานกันต่อ

บรรยากาศถนน “ฮู่ปู้เซี่ยง” ยามฝนตก

น่ากินจริง ๆ

ข้าวหลามจากประเทศไทย ก็มา

สามารถจ่ายเงินได้ด้วย QR Code

ถ่ายภาพร่วมกัน “สมาคมจักรยานอู่ฮั่น” ก่อนที่จะปั่นสำรวจเส้นทางจักรยาน

วันที่สองอุณหภูมิเช้านี้ 8 องศา พอรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมกันเรียบร้อยแล้ว เรามุ่งหน้าไปยังทะเลสาบตงหู เพื่อเริ่มทดสอบเส้นทางจักรยาน Donghu Greenway

อุณหภูมิ 8 องศา เสื้อกันลมและผ้าเอนกประสงค์เป็นสิ่งจำเป็น

ข้อควรระวังคืออากาศเย็นและลม เราจึงต้องพกเสื้อกันลม เพื่อป้องกันลมปะทะระหว่างการปั่นจักรยานและเพื่อรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้ไม่เย็นจนเกินไป

คุณกบ จาก Bike Finder, คุณขวัญชัย (บนจักรยาน) จาก Seasons Holiday,

คุณฉี (คนกลาง) จากสมาคมจักรยานอู่ฮั่น

และคุณหญิง (เสื้อกันหนาวสีดำ) จาก Trip Planner 

ทางน่าปั่นมาก เรียบและปลอดภัย

ปั่นจักรยานพร้อมชมทัศนียภาพอันสวยงามของทะเลสาบตงหู

ทั้งนี้เราได้รับเกียรติจาก  “สมาคมจักรยานอู่ฮั่น”  คอยดูแลให้กับพวกเราระหว่างปั่นจักรยานใน Donghu Greenway ซึ่งเส้นทางจักรยานที่นี่มีระบบความปลอดภัยสูง พื้นถนนยางมะตอยความเสียดทานต่ำมาก ปั่นแล้วไม่รู้สึกถึงแรงหน่วงแม้แต่นิดเดียวแต่ยังคงความเกาะถนนได้เป็นอย่างดี ระยะทาง 1 รอบ Greenway ทั้งหมด 28.7 กิโลเมตร ในอนาคตจะเพิ่มเป็น 108 กิโลเมตร เส้นทางยังคงไว้ด้วยความเป็นธรรมชาติ 100% มีความอุดมสมบูรณ์มาก วิวสวยมาก ลมแรงมาก อากาศเย็นมาก ส่วนอาเฉินในวันนี้ ก็ต้อนรับ อาคันตุกะ ได้เป็นอย่างดี เพิ่มเส้นทางการปั่นจากเดิม 28.7 กม. เป็นจบที่ 46 กิโลเมตร มีหันมาถาม ไปทางนี้มั้ย ? โอเค go ทางนั้นมั้ย ? โอเค ok ก่อนปั่นจบแอบพาเราไปขึ้นเขา แต่ก็ผ่านกันไปได้ สรุปเลยครับ เส้นทางจักรยานที่ทะเลสาบตงหู ประทับใจมาก สนุกมาก วิวสวยมาก นี่ขนาดยังไม่เจอกับ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเต็ม ๆ นะครับ ยังขนาดนี้ ถ้าเต็ม 100% คงไม่ต้องพูดถึง เอาเป็นว่า ได้กลับมาแน่นอน

ใบไม้เริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม

พอปั่นจักรยานเสร็จเราก็มาแวะพักรับประทานอาหารเที่ยงซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกันพอดี พอเสร็จกิจก็เรามุ่งหน้าไปยังเมืองซุยโจว ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือเมือง มณฑลหูเป่ย เพื่อไปยังสัมผัส “อาณาจักรกิงโกะทองคำพันปี” ซึ่ง “กิงโกะ” เป็นภาษาญี่ปุ่น หมายถึง “ต้นแปะก๊วย” ของชาวจีน ชื่อภาษาอังกฤษ “Maidenhair Tree” ชาวฝรั่งเศสเรียกว่า “ต้นสี่สิบมงกุฏทอง” บางคนเรียก “ต้นไม้แห่งความหวัง” , “ต้นไม้แห่งอิสรภาพ”

ต้นกิงโกะจะมีลักษณะใบสีเหลืองทองอร่าม ปลูกอยู่เต็มพื้นที่ขนาด 17.14 ตร.กม. มีต้นกิงโกะ อยู่ทั้งหมดมากกว่าแสนต้น โดยต้นที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุนับพันปีเลยครับ

ต้นนี้อายุประมาณ 1,600 ปี

สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวที่นี่จะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเดือนพฤศจิกายน ใบกิงโกะจะเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นสีทองเหลืองอร่ามเต็มพื้นที่เลยทีเดียว พอถึงเวลาพลบค่ำเราเดินทางไปยังเมืองจ่าวหยางเพื่อเข้าที่พัก

ในวันที่สามของการเดินทาง เรามุ่งหน้าไปยัง “โรงถ่ายภาพยนตร์ฮั่นเฉิง” ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังของจีน มีพื้นที่ 800,000 ตร.ม. ภายในประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่เลียนแบบสิ่งปลูกสร้างมาจากสมัยราชวงศ์ฮั่น  ซึ่งเป็นอีกสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยทีเดียว

พิธีการเข้าเมือง ฮ่องเต้พร้อมองครักษ์จะต้องออกมาต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง

ฮ่องเต้พร้อมไทเฮาเสด็จออกมาต้อนรับ

เมื่อเข้าไปถึงท้องพระโรง จะมีโชว์จากอาคันตุกะจากประเทศต่าง ๆ ที่เป็นเมืองขึ้นของราชวงศ์ฮั่น

บรรยากาศท้องพระโรง เหมือนในหนังเลย

หลังจากชมโชว์เสร็จเราก็เดินไปยัง โซนโรงถ่ายภาพยนตร์จะเป็นโซนที่ให้กองถ่ายสามารถเข้ามาเซ็ทฉากที่ต้องการได้

พระราชวังโบราณสมัยราชวงศ์ฮั่น ถอดแบบมาจากของจริง

สถานที่เหมือนจริงมาก

โชว์การต่อสู้บนหลังม้า ต่อหน้าพระพักตร์ ฮ่องเต้และไทเฮา

แต่ที่ไฮไลท์ที่สุดในโรงภาพยนตร์ฮั่นเฉิง นอกจากเรื่องฉากแล้วยังมี ละครเวทีจาก จาง อวี้ โหม่ว เรื่อง “ความฝันของชาวฮั่น” เป็นละครเวทีแบบ 5D ที่ใส่เอฟเฟคแบบจัดเต็ม ทั้งอารมณ์ร่วมของนักแสดง บรรยากาศ ราวกับเหมือนได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง ๆ ขอบอกว่าประทับใจมาก ๆ เลยครับ จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติอู่ฮั่นเพื่อกลับกรุงเทพ

ละครเวที 5D จาก จาง อวี้ โหม่ว เรื่อง “ความฝันของชาวฮั่น”

จอ 180 องศา ใช้น้ำและไฟจริงในการแสดง เพื่อความสมจริง

แสงและเสียงแบบจัดเต็ม

ลีลาการแสดงของตัวร้ายในเรื่อง 

นางเอกถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้อย่างดี

บรรยากาศ การแสดง อารมณ์ร่วม ทุกตัวละคร จัดเต็ม

สำหรับการเดินทางของพวกเรา Bike Travel ในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณ Seasons Holiday, สมาคมจักรยานอู่ฮั่น ที่ให้เกียรติพวกเรารวมถึงพันธมิตร Trip Planner, 365 Travel , Double enjoy, Tourkrub และ เพจ สปอร์ตเกิร์ล by Thipwalee มาสำรวจเส้นทางจักรยานที่ประทับใจมากในครั้งนี้ สำหรับใครที่สนใจอยากจะท่องเที่ยวประเทศจีนในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ www.season.co.th บอกเลยว่าทริปหน้าไม่พลาดแน่ครับ

Loading Facebook Comments ...

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here