“นิ้ง กุลสตรี” ร่างกายยังไม่ไหว แต่อยากมาอีเวนต์เพราะคิดถึงแอร์ไลน์ เผยครั้งแรก หากรักษาโรคไขกระดูกบกพร่องช้า จะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว พร้อมเผยชีวิตที่มองแค่ปัจจุบัน ไม่มองถึงวันพรุ่งนี้ ปวดตรงไหนก็รักษาตรงนั้น ขอบคุณตัวเองที่ได้ตื่นทุกเช้า ได้เจอสามีคนสำคัญ เผยในวันที่โคม่า จะเห็นสามีจับมืออยู่ข้างๆ ซึ้งทุกคนไม่ลืมกัน ทั้งที่ออกจากวงการ 18 ปีแล้ว https://unitus.synergy-e.com/custom/inread/sf/src/html/r.html?ox_ver=8.6

ตั้งแต่วิ่งเข้าวิ่งออกโรงพยาบาล เพื่อรักษาตัวจากโรคไขกระดูกบกพร่อง ครั้งนี้ถือว่าเป็นอีเวนต์แรกที่ “นิ้ง ณิชชยาณัฐ ศิริพงศ์ปรีดา” หรือ “นิ้ง กุลสตรี” อดีตนางเอกชื่อดัง ได้ออกงานมาพบปะเพื่อนฝูงและสื่อมวลชนพร้อมสามีในงาน Airline’s Family Market ตลาดชุมชนคนแอร์ไลน์ โดยเจ้าตัวเปิดใจว่ามีความสุขมาก ดีใจที่ได้มา แม้ร่างกายไม่ไหว

“ตอนนี้ร่างกายก็ดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังต้องกลับโรงพยาบาลไปตรวจเลือดทุกเดือนว่าค่าเลือดยังอยู่ในที่คุมอยู่ไหม เกล็ดเลือดคนทั่วไปคือหลักแสน แต่ของนิ้งมีแค่หลักพัน ต้องเข้าไอซียู ใส่ท่อ ตอนนี้ก็ดีขึ้น แต่เมื่อเดือนที่แล้วเกล็ดเลือดตกอีก คุณหมอก็ให้กลับมาตรวจใหม่ ฉีดยากระตุ้น ก็เลยให้ขึ้นมาหลักแสน แต่ก็ยังต่ำกว่าคนปกติ ยังต้องทานยาเคมีบำบัดอยู่ทุกวัน

จริงๆ แล้วถ้าไม่มีอะไรก็จะอยู่บ้าน วันนี้คิดถึงแอร์ไลน์ อยากจะมาเจอพี่ๆ น้องๆ ที่เคยทำงานด้วยกัน จริงๆ แล้วคือไม่ไหว แต่เหมือนได้มาแล้วเราก็รู้สึกมีพลัง อะดรีนาลีนมันหลั่ง ทำให้เรารู้สึกมีความสุข สดชื่น ทั้งๆ ที่จริงๆ ก็ไม่ไหว เราคิดถึงเพื่อนๆ มากๆ ถ้าใครติดตามไอจี เฟซบุ๊กของนิ้งจะเห็นนิ้งโพสต์รูปตัวเองใส่ชุดแอร์เอเชีย แล้วเขียนว่าคิดถึงบ่อยมาก น้องๆลูกเรือที่ติดตามนิ้งก็ยังคุยกันอยู่ วันนี้ได้มาเจอกันก็กรี๊ดกร๊าดกันด้วยความดีใจ”

ไม่เคยบอกใครมาก่อน ไขกระดูกบกพร่องไม่สร้างเกล็ดเลือด มาช้า 1 เดือน จะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว
“ร่างกายนิ้งไขกระดูกไม่สร้างเกล็ดเลือด ตามตัวจะขึ้นจ้ำๆ ก็ไม่ทราบสาเหตุตั้งแต่แรก พอเป็นก็รักษาด้วยการให้เคมีบำบัดไป คุณหมอบอกว่าไม่เกิน 1 เดือนถ้านิ้งมาช้า นิ้งจะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ไม่เคยบอกใครมาก่อน ด้วยความโชคร้ายของนิ้งต้องให้เคมีบำบัดถึง 8 ครั้ง แต่นิ้งทำได้แค่ 4 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่นิ้งทำก็จะเกิดการติดเชื้อ ต้องอยู่โรงพยาบาลทีนึง 2-3 เดือน จนอาจารย์หมอบอกให้หยุดทำ แล้วก็รักษาด้วยการทานยาเอาวันละ 6 เม็ด

ซึ่งตัวยาเคมีบำบัดก็จะไปกดไขกระดูก ตัวเลือดทั้งหลาย ทำให้เกล็ดเลือด เม็ดเลือดขาวตกได้ อาจารย์หมอก็เลยให้นิ้งลดยาลงจาก 6 เหลือ 4 เม็ด ซึ่งก็ทำให้เลือดขึ้นมาจากที่กดเอาไว้ แต่มันก็เป็นอะไรที่เสี่ยงพอสมควร ตอนนี้นิ้งกินยาอยู่ 4 ตัว ตัวแรกนิ้งแพ้ ก็แย่ไปเหมือนกัน ตอนนั้นปวดไปท้ังตัว ตัวที่ 2 ทานได้สักระยะนึงก็คิดว่าดีแล้ว อยู่ดีๆ ก็ถ่ายเป็นเลือด ก็รีบเปลี่ยนยาด่วน เป็นตัวที่ต่ำสุดแล้ว ใช้ปริมาณยาเยอะ ประมาณ 6 เม็ด พอทานไปแล้วมันไปกดค่าเลือด ก็อันตรายอยู่”

เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยากให้มางานนี้
“บอกเลยว่าดีใจมาก จริงๆ บอกคุณ อั้ม ธันวา ไปแล้วว่าอาจจะไม่ได้มางานวันนี้แล้วเพราะเข้าโรงพยาบาล เวลาเข้าทีก็ให้เลือดหลายถุง รอบนี้กลับกลายเป็นให้แค่ถุงเดียว ซึ่งอยู่แค่ 4 วัน เหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยากให้มาที่นี้ (ยิ้ม) อยากให้มาพบกับพี่ๆ นักข่าว จอยกับเพื่อนๆ นักบิน”

บอกตัวเองให้อยู่กับปัจจุบัน ปวดตรงไหนรักษาตรงนั้น ไม่ต้องมองถึงวันพรุ่งนี้ ขอบคุณตัวเองลืมตาตื่นทุกเช้า ยังได้เจอสามี คนสำคัญ
บอกตัวเองตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าเราโรคอะไรแล้วรักษาแบบไหน บอกตัวเองว่าเราควรอยู่กับวันนี้ อยู่กับตรงนี้ วันนี้เราให้เคมีบำบัด เราปวดตรงไหนก็รักษาตรงนั้น อย่าไปมองวันพรุ่งนี้ว่าจะหายพรุ่งนี้

หรือวันไหนฉันจะเป็นยังไง ก็จะไม่มอง ไม่ไปคาดหวังกับอนาคต คาดหวังแค่วันนี้เท่านั้นว่าวันนี้เรามีความสุขแบบไหน ขอบคุณตัวเองพยายามบอกตัวเองขอบคุณนะที่ได้ตื่นมาตอนเช้า มีรอยยิ้ม ได้เจอสามี มีความสุข แต่สำคัญสุดคือสามีที่อยู่ เคียงข้างไม่เคยห่างเลย แม้กระทั่งอยู่ไอซีอยู่เกือบเดือนเขาก็มาทุกครั้งที่ลืมตาก็จะเจอ 5 วันแรกคือไม่ตื่นก็คือหลับ วันที่ 4 หมอบอกกับสามีว่าให้ทำใจ ไม่รอด แต่โชคดีก็ตื่นในวันที่ 6 ลืมตาแล้วก็หลับ เนื่องจากว่าอาจารย์หมอให้ยา 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เจ็บข้างใน เพราะเอฟเฟกต์การให้เคมีบำบัด

คือตอนอยู่ไอซียูไม่รู้สึกตัว ต้องเข้าอาทิตย์ที่สามก็ยังหลับๆ ตื่นๆ ยังไม่รู้สึกตัว พอเริ่มอาทิตย์ที่ 3 เริ่ม เอียงๆ ได้ ทุกครั้งที่ลืมตาจะเห็นเขาจับมือนิ้งอยู่ข้างๆ”

ซึ้งทุกคนไม่ลืมตน ทั้งออกจากวงการ 18 ปีแล้ว
อยากบอกทุกคนดีใจมากๆ ไม่เฉพาะแฟนคลับพี่ๆ น้องๆ นักข่าวทุกคนด้วยที่ยังไม่ลืมนิ้ง ให้โอกาสมาสัมภาษณ์นิ้ง ทั้งๆ ที่นิ้งออกวงการไปตั้งแต่ 2004 คือ 18 ปีมาแล้ว ทุกๆ คนยังให้โอกาสนิ้งแล้วก็ยังให้เกียรตินิ้งมาสัมภาษณ์ในวันนี้ มันเกินคำพูดคำว่าขอบคุณจากใจ ขอบคุณมากค่ะ (ไหว้)

ถามว่าจะเห็นนิ้งในรายการอื่นอีกไหม มีไปออกรายการนึงแล้ว แล้วก็มีทางยูทิวบ์อีกรายการนึงเกี่ยวกับธรรมะไปนั่งคุยว่า การใช้ชีวิตของเรายังไง ให้เราปลง ชีวิตเราไม่เที่ยง ไปคุยเพื่อเป็นการเปิด ให้กำลังใจคนป่วยว่าเห็นไหม เราป่วย เราเข้าห้องไอซียู เรานอนติดเตียง เราต้องมาฝึกเดินใหม่ แต่ว่าเราก็ยังเดินมาอยู่ตรงนี้ได้ เพราะฉะนั้นทุกๆ คน ไม่อยากบอกว่าขอให้หาย แต่อยากบอกว่าขอให้ทุกๆ คนแข็งแรง แล้วก็สู้ แล้วก็ขอบคุณตัวเอง ขอบคุณที่ได้ตื่นขึ้นมา มีลมหายใจเย็นๆ ในแต่ละวัน ได้มีความสุข ได้มีรอยยิ้ม ยิ้มไว้ ไม่สบายยังไงเราก็ยิ้มไว้ ให้ข้างในเรามีความสุขมันก็จะออกมา”

ไม่อยากมีผลงานในวงการอีก นอกจากออกรายการที่เกี่ยวกับธรรมะ
“บอกตัวเองว่าถ้าไม่ได้เกี่ยวกับรายการธรรมะก็อาจจะไม่ไป เหมือนตอนที่บอกกับนักข่าวเอาไว้ว่านิ้งจะออกจากวงการแล้วนะ จะไปเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่อง นิ้งก็ทำตามคำพูด นิ้งคิดว่าวาจาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”

เชื่อเรื่องพรหมลิขิต สามีคือคู่แท้
“ตัวนิ้งเชื่อในเรื่องพรหมลิขิตนะคะ ตัวเราเดินอยู่หน้าโรงเรียน ก็ได้เป็นนักแสดง พอเป็นนักแสดงได้สักพักนึง สอบเข้าได้เข้ามาเป็นพนักงานตอนรับในสายการบินแอร์เอเชีย”

Loading Facebook Comments ...

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here