การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับสมาคมการท่องเที่ยวสระบุรี จัดงาน “อาบป่าสระบุรี 2568” เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาดกิจกรรมอาบป่าสระบุรีให้เป็นที่รู้จักและแพร่หลายสู่กลุ่มนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจ โดยได้รับเกียรติจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีเป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมการสนับสนุนงบประมาณจาก ททท. สำนักงานพระนครศรีอยุธยา
ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมบรรยายพิเศษ “Forest Talk” โดยคุณธนาพร ตระกูลดิษฐ์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ และกระบวนกรอาบป่าผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ
กิจกรรมอาบป่า
กิจกรรม “เปิด 5 สัมผัสรับพลังป่า”
กิจกรรมศิลปะภาวนา “แมนดาลา”
นิทรรศการจากเครือข่ายป่าชุมชนสระบุรีและสวนรุกขชาติมวกเหล็ก
ช้อปปิ้งสินค้าและผลิตภัณฑ์จากเครือข่ายท่องเที่ยวและป่าชุมชนสระบุรี
อาบป่า คืออะไร?
“การอาบป่า” (Forest Bathing หรือ Shinrin Yoku) เป็นศาสตร์บำบัดจากประเทศญี่ปุ่น เริ่มต้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1982 และมีการก่อตั้งสมาคมป่าบำบัดในปี ค.ศ. 2002 เพื่อศึกษาผลของธรรมชาติต่อสุขภาพ พบว่าช่วยให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น อารมณ์และสมาธิสมดุลขึ้น รวมถึงช่วยลดความเครียด จึงได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก และเริ่มเข้าสู่กระแสการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเชิงนิเวศในประเทศไทย
เชื่อมโยง Saraburi Sandbox
กิจกรรมอาบป่าอยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ “Saraburi Sandbox เมืองคาร์บอนต่ำ” โดยมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่สีเขียวและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ภาคเอกชนหลักอย่างบริษัท SCG จำกัด และบริษัท เคมีแมน จำกัด ได้เข้ามาสนับสนุนการดำเนินการของเครือข่ายป่าชุมชน เพื่อผลักดันการใช้ประโยชน์ป่าในเชิงอนุรักษ์ คำนึงถึงความสมดุลของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม
แผนการดำเนินงานหลัก
- การพัฒนานักอาบป่า
ปัจจุบันมีนักอาบป่าจำนวนกว่า 100 คน อยู่ระหว่างการฝึกฝนและสะสมประสบการณ์
ภาคเอกชนสนับสนุนให้นำพนักงานเข้าร่วมกิจกรรม
มีแผนอบรมและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมทักษะการนำกิจกรรมที่ลึกซึ้งและปลอดภัย
- การพัฒนาพื้นที่อาบป่า
พื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า สวนพฤกษศาสตร์พุแค และสวนรุกขชาติมวกเหล็ก
ป่าชุมชน ขณะนี้เปิดให้บริการแล้วหลายแห่ง และมีเป้าหมายพัฒนาให้ครบกว่า 20 แห่งทั่วจังหวัด
พื้นที่สถานประกอบการ ผ่านการเชิญชวนผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมอาบป่า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและสร้างการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น
- การพัฒนาองค์กรเพื่อการจัดการอย่างยั่งยืน
ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน เครือข่ายป่าชุมชน และทุกภาคส่วน
กำหนดมาตรฐานนักอาบป่าและพื้นที่อาบป่า
วางระบบการจัดการด้านข้อมูล การประชาสัมพันธ์ และการประสานงาน เพื่อสร้างการพัฒนาที่ต่อเนื่อง
พื้นที่นำร่อง 2 อุทยาน 4 ป่าชุมชน
- อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย อ.มวกเหล็ก
- อุทยานแห่งชาติเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า อ.แก่งคอย
- ป่าชุมชนบ้านถ้ำน้ำพุ อ.แก่งคอย
- ป่าชุมชนคลองระบัง อ.มวกเหล็ก
- ป่าชุมชนเขาน้อยจอมสวรรค์ อ.วิหารแดง
- กลุ่มป่าชุมชนเขาพระพุทธบาทน้อย อ.แก่งคอย
คาดว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป จะมีนักท่องเที่ยว องค์กร และชุมชนเข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มมากขึ้น กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างการรับรู้และร่วมกันอนุรักษ์พื้นที่สีเขียว สร้าง Buffer Zone ให้คนกรุงเทพฯ ได้พักกายพักใจใกล้ชิดธรรมชาติ
ช่องทางติดต่อ
ผู้ที่สนใจกิจกรรม “อาบป่าสระบุรี” สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่
Facebook: อาบป่าสระบุรี
Facebook: สมาคมการท่องเที่ยวสระบุรี
โทร. 062-996-4593
