(THAILAND TOURISM FESTIVAL : TTF 2025)
เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ในปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 43 โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 30 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ฮอลล์ 1 – 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นงานท่องเที่ยวระดับชาติเพื่อกระตุ้นให้เกิดความต้องการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ สร้างการรับรู้เอกลักษณ์ของพื้นที่ทุกภูมิภาค
- แนวคิดในการจัดงานปีนี้
พลิกโฉมการท่องเที่ยวไทยสู่มิติใหม่ กล่าวคือ ขับเคลื่อนแนวคิด Carbon Neutral Tourism อันจะเป็นการยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับ แคมเปญพิเศษ สำหรับปี 2568 ซึ่งเป็นปีท่องเที่ยวไทย ก็คือ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sport Year 2025” โดยจะมีการ นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว “5 Must Do in Thailand” ได้แก่ สินค้า MUST TASTE, MUST TRY, MUST BUY, MUST SEEK และ MUST SEE ที่คงความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของแต่ละภูมิภาค ทั้งด้านวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต อาหาร และภูมิปัญญาท้องถิ่น ผ่านโซนนวัตกรรมต่าง ๆ ภายในงานที่มี ความหลากหลาย เสมือนเป็นการรวบรวมความมหัศจรรย์ของเมืองไทยเอาไว้ในงานเดียว
- โซนกิจกรรมภายในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย
ภายในงานจะประกอบด้วย 9 โซนหลัก ซึ่งนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว ทั้ง 5 ภูมิภาค พร้อมด้วยหลากหลาย Landmark และกิจกรรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อนำเสนอวัฒนธรรมไทยด้วยนวัตกรรม รวมถึงส่งเสริมแนวคิด Sustainable Tourism
โซนที่ 1 : Amazing Thailand
พื้นที่นำเสนอแคมเปญท่องเที่ยวต่าง ๆ ของ ททท. โดยปีนี้มาพร้อมแนวคิด “ฮีลใจ ไทยแลนด์” สร้างบรรยากาศแห่งความสุข ผ่อนคลาย ไปกับงานศิลปะ กิจกรรม และโซน Refreshment เครื่องดื่มและเสียงดนตรี เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยว
● แลนด์มาร์ก
– เครื่องมือสื่อสารขนาดยักษ์ หนังสือ คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ มือถือ
– จอภาพวีดีโอ 3 มิติเคลื่อนไหวเสมือนจริง
– จุดถ่ายภาพ (ตู้สติ๊กเกอร์) โดยมีสติ๊กเกอร์เป็นกรอบรูปลาย “Huuyaow & Worldboy” X 1672 Travel Buddy พาเที่ยวไทย 5 ภาค
– จุดถ่ายลงหน้าปกอนุสาร อ.ส.ท.
● กิจกรรมไฮไลต์
– นิทรรศการ 65 ปี ททท. รูปแบบ TeamLab ตกแต่งเป็นรูปแบบการเดินชมพิพิธภัณฑ์ นำเสนอพัฒนาการส่งเสริมการท่องเที่ยว 65 ปี ของ ททท. ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
– ตื่นตาตื่นใจไปกับจอภาพวีดีโอ 3 มิติเคลื่อนไหวเสมือนจริง และร่วมสนุกผ่านจอแสดงผลผ่าน Filter action ต่าง ๆ
– แวะเติมความสดชื่น Refresh กับร้านกาแฟ “Amazing Coffee” กาแฟสายพันธุ์ไทยที่มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและได้รับความนิยม ผ่านความพิถีพิถันของของบาริสต้าที่มีความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ ร่วมให้ข้อมูล พร้อมสาธิตการทำกาแฟสดทุกเมนู ซึ่งรายได้จาก การขายเครื่องดื่ม และอาหารว่าง บริจาคเข้ามูลนิธิเพื่อสังคม โดยไม่หักค่าใช้จ่าย
– บูธกิจกรรมลุ้นรับ Art toy Journey Collection “Huuyaow & Worldboy” ร่วมกิจกรรมตอบคำถามกับ 1672 Travel Buddy รับของที่ระลึกสุดพิเศษ
– Bar (วันละบาร์) บาร์เครื่องดื่มที่ใช้วัตถุดิบพื้นบ้านมาประยุกต์ จนเกิดความร่วมสมัย (5 วัน 5 เมนู แต่ละวันไม่ซ้ำ) ได้แก่ ชานมจาก By หอมป่าจาก บางกระเจ้า น้ำเต้าหู้สุขภาพพรีเมี่ยมแบรนด์ 5a.m.จากตลาดบ้านหม้อ คราฟท์โคล่า Co Coon ไอศกรีมโฮมเมดเจลลาโต จากสกลนคร และกาแฟ สโลบาร์ โรบัสต้า จาก Kim Coffee
– มุม Exclusive Talk พูดคุยกับนักเขียน ช่างภาพ อินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยว
– นิทรรศการภาพอนุสาร อ.ส.ท.
– บูธขายอาหาร/งานคราฟต์ จากร้านค้า/ชุมชน ที่เคยได้รับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และเติบโตคู่กับอ.ส.ท. มาตลอด เช่น กาแฟรักษ์ป่า ไอศกรีมข้าวฮาง ร้านแฟชั่นมือสอง ฯลฯ
โซนที่ 2 : หมู่บ้านภาคตะวันออก
ชวนมาสนุกกับสีสันตะวันออกผ่านแนวคิด Must do in the East โดยชูจุดเด่นสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว Must Seek เสนอแหล่งท่องเที่ยวและความมหัศจรรย์ของ 9 จังหวัดภาคตะวันออก ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ ในมุมมองใหม่ ๆ ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ประกอบด้วย 5 จุดขาย “สีสันสวรรค์ใกล้กรุง” “สีสันสวรรค์ทะเลตะวันออก” “สีสันสวรรค์นักกิน” “สีสันสวรรค์นักช็อป” “สีสันสวรรค์นักผจญภัย”
● แลนด์มาร์ก
– จำลองอาณาจักรผีเสื้อแห่งผืนป่าตะวันออก อุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว ผสมผสานกับนวัตกรรมเทคโนโลยี เทคโนโลยีสื่อผสม เพื่อแสดงถึงสีสันความสนุก
– จำลองอุทยานแห่งชาติตาพระยา จ.สระแก้ว 1 ในเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย โดยตกแต่งภายในจำลองบรรยากาศสีสันของดวงดาว
● จุดถ่ายภาพ
– “น้องหมูเด้ง” คนมีสไตล์แห่งปี 2024 จาก The New York Times ความสูง 2 เมตร
– จุดชมนกนางนวลสถานตากอากาศบางปู จ.สมุทรปราการ
● กิจกรรมไฮไลต์
– โซนสีสันสวรรค์ใกล้กรุง : จำลองอาณาจักรผีเสื้อแห่งผืนป่าตะวันออก อุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว ผสมผสานกับนวัตกรรมเทคโนโลยี เทคโนโลยีสื่อผสม เพื่อแสดงถึงสีสันความสนุกและจำลองอุทยานแห่งชาติตาพระยา จ.สระแก้ว 1 ในเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย โดยตกแต่งภายในจำลองบรรยากาศสีสันของดวงดาว
– โซนสีสันสวรรค์นักกิน : จำลองร้านค้าบรรยากาศบีชบาร์ริมทะเลภาคตะวันออก นำเสนออาหารและผลไม้ของภาคตะวันออก อาทิ ทุเรียน จากจังหวัดระยองและจันทบุรี หมี่กรอบมะยงชิด แคนตาลูปปั่น ข้าวหลามช็อต ไอศกรีมผลไม้ มะม่วงบางคล้า มะพร้าวน้ำหอม หอยจ๊อปู ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟกั้ง เส้นจันทน์ผัดปู หมูชะมวง ทอดมันกระวาน ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ปลาสลิดบางบ่อ ข้าวคลุกพริกเกลือ และอีกมากมายกว่า 50 ร้าน
– โซนสีสันสวรรค์นักช็อป : เตรียมช้อปอัญมณีและพลอยเมืองจันทน์ เครื่องจักรสานจันทบุรี ผลิตภัณฑ์เสื้อและกระเป๋ารักษ์โลกจาก PTTGO และนวดผ่อนคลาย จากวิสาหกิจชุมชนหัตถศาสเพื่อสุขภาพ
– โซนสีสันสวรรค์นักผจญภัย : สนุกกับการปีนผาจำลองสูงกว่า 6 เมตร
– โซนกิจกรรม Workshop อาทิ ร้อยสร้อยข้อมือลูกปัดมงคลประจำวันเกิด, ทำพวงกุญแจ จากเสื่อกก Korkok จ.จันทบุรี, ทำกระเป๋าผ้าวาดลายไทย อำพลลายไทย จ.นครนายก, ทำลูกประคบร้อนจากเมล็ดธัญพืชและเสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าพันคอ ECO Print จากวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่าง
นอกจากนี้ เพิ่มสีสันด้วยการแสดงดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียง และวงดนตรีที่มีชื่อเสียง, การแสดง Street Show หรือ มาสคอตตัวการ์ตูน อาทิ การแสดงมายากล Juggling ตัวตลก มาสคอตตัวการ์ตูนจากสวนน้ำที่มีชื่อเสียงของภาคตะวันออก การแสดงศิลปวัฒนธรรม/การแสดงของภาคตะวันออก อาทิ ทิฟฟานี่โชว์ , คาบาเร่ , การแสดงหุ่นคน รวมถึงกิจกรรมเล่นเกมบนเวทีภาคตะวันออก ลุ้นรับของรางวัลมากมาย
โซนที่ 3 : หมู่บ้านภาคกลาง
พร้อมเปิดบ้านต้อนรับผ้าเยือนด้วย บรรยากาศหรูหราระดับพรีเมียม ย้อนยุคเชื่อมอดีตมาสู่ปัจจุบัน ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน กับเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟ ซึ่งเป็นกระแสอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะรถไฟขบวนใหม่สไตล์ญี่ปุ่นอย่าง SRT Royal Blossom สร้างแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางเข้ามาในภูมิภาคภาคกลาง โดยให้ความสำคัญเน้นการออกแบบโครงสร้างใช้วัสดุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ผ่านแนวคิด “5 Must Do in Central Thailand” เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย เที่ยวได้ตลอดปี ได้แก่
– Must Taste อิ่มอร่อยกับอาหารเด่นในจังหวัดภาคกลาง อาทิ ร้านอาหาร MICHELIN ร้านอาหารเก่าแก่ ร้านที่เป็นกระแสในโซเชียล หรือออกรายการผ่านสื่อต่างๆ อาทิ ร้านย้อยหย่อย นครปฐม ร้านค้าของฝากของที่ระลึก อาทิ ร้านของฝากท่าเรือ รวมทั้งร้านที่นำวัตถุดิบท้องถิ่นมาสร้างสรรค์เมนูมากมาย อาทิ หมูแดงหมูกรอบจากนครปฐม กุ้งเผา โรตี จากอยุธยา ข้าวแช่ ขนมจีนทอดมัน จากเพชรบุรี เป็นต้น
– Must Try เปิดประสบการณ์ทำงาน Craft ผ่านกิจกรรม DIY สร้างแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยว อาทิ ทำสมุด Notebook เล่มเดียวในโลกจากผักตบชวา ตกแต่งพวงกุญแจปลาตะเพียนจากผ้าลายอย่าง
– Must Buy คัดสรรสินค้าให้ได้เลือกช้อป อาทิ ร้านค้าของฝากภาคกลาง สินค้าแปรรูปทางการเกษตรจากวิสาหกิจชุมชนต่างๆ อีกทั้งสินค้าอันทรงคุณค่า ได้แก่ ผ้าไทยที่มีอัตลักษณ์ท้องถิ่นในภาคกลาง
– Must Seek ตื่นตาตื่นใจกับการเชื่อมอดีตสู่ปัจจุบันของภาคกลาง ผ่านการจำลองพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน รวมทั้งเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศการนั่งรถไฟจำลอง (ขบวน Blossom) และการจำลองสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) และจำลองสถานีรถไฟหัวหิน
– Must See โชว์จากศิลปินและวงดนตรี ที่ประสานกันระหว่างดนตรีที่มีเอกลักษณ์ในภาคกลางกับ ศิลปวัฒนธรรมไทย เช่น มวยไทย และการแสดงอื่นๆ เช่น ลีลาศ และสวิงแดนซ์
● แลนด์มาร์กภาคกลาง
– จำลองพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
– จำลองสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และโบกี้รถไฟ SRT Royal Blossom
– จำลองสถานีรถไฟหัวหิน
● จุดถ่ายภาพ
– Immersive Room Interactive ภาพแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
– Virtual Backdrop ภาพแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมในภูมิภาคภาคกลาง
– Photo Booth 360’ ภาพแหล่งท่องเที่ยวในภาคกลางแบบ 360 องศา
– Camping Photo Booth มุมถ่ายภาพสไตล์ Camping
● กิจกรรมไฮไลต์
– โชว์จากศิลปิน อาทิ ศรราม โก้ Mr. Saxman x ดนตรีไทย การแสดงมหรสพ ศิลปวัฒนธรรม การแสดงร่วมสมัย หรือการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นภาคกลาง อาทิ น้องฟีโน่ ฆ้องไทย New Gen ลีลาศร่วมกับวงสุนทราภรณ์ กลองยาว อ่างทอง
– ลานกิจกรรม Swing Dance ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ อาทิ รำวง ลีลาศ
– Mini Exhibition Mapping จังหวัดในภาคกลางพร้อมข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว
– หา RC Landmark เพื่อรับของที่ระลึก โดยจัดทำ E-Passport Stamp สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้
– โซนล้านตลาดถนนคนเดิน ร้านค้าที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ความเป็นภาคกลาง ร้านที่มีชื่อเสียงในพื้นที่หรือร้านที่มีรางวัลการันตี อาทิ สรินทิพย์ ขนมเบื้องไทย ตลาดพลู กรุงเทพฯ ร้านบุญเลิศ บะหมี่หมูย่างซีอิ๋ว กรุงเทพฯ ข้าวแช่เม่เล็ก สะกิดใจ จ.เพชรบุรี ย้อยหย่อย จ.นครปฐม ร้านที่รัก คราฟท์ช็อกโกแลต จ.กาญจนบุรี ร้านมาลีขนมไทย ตลาดศาลเจ้าโรงทอง (ตลาด 100 ปี เมืองวิเศษชัยชาญ) จ.อ่างทองและปืนกุ้งใหญ่ จ.อยุธยา
– จำลองการขายอาหารในหาบเร่ แผงลอย รำลึกถึงบรรยากาศของร้านค้าในอดีต หรือร้านค้าริมชานชาลารถไฟ อาทิ ข้าวเกรียบเว่า ปลากิมไข่เต่า ปลาหมึกบดย่าง และน้ำจรวด เป็นต้น
– โซน OTOP ผลิตภัณฑ์ชุมชนของภูมิภาคภาคกลาง ได้แก่ สินค้าแปรรูปทางการเกษตรจากวิสหากิจชุมชนต่างๆ รวมทั้ง สินค้าให้ได้เลือกช้อป อาทิ ผ้าไทยลายโบราณ จากภูษาผ้าลายอย่าง ผ้ามัดหมี่โคกเจิญ อิมปานิผ้าขาวม้า ผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายจากป่านศรนารายณ์ เป็นต้น
– โซนสาธิต DIY งาน Craft ชุมชนของภูมิภาคภาคกลาง อาทิ DIY Notebook จากผักตบชวา จากเดอะศาลายา เลเชอร์ปาร์ค จ.นครปฐม, เพ้นต์รูปบนผลิตภัณฑ์สินค้า GI นิลเมืองกาญจน์ จากกลุ่มนิล ณ กาญจน์ จ.กาญจนบุรี, ตกแต่งพวงกุญแจปลาตะเพียนจากผ้าลายอย่าง จากชุมชนวัดย่านอ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา, เพ้นต์และลงสี Magnet โถเบญจรงค์/ช้าง, เข็มกลัดเบญจรงค์, ช้างเสียบปากกา จากบ้านเบญจรงค์บางช้าง จ.สมุทรสงคราม, ทำพวงกุญแจผ้าฝ้าย จากวิสาหกิจชุมชนผ้าด้นมืออู่ทอง จ.สุพรรณบุรี, น้ำอบพิกุลน้ำมันจันทร์ แป้งพวงผ้าอบหอม จำปาดองและแป้งน้ำกุหลาบ จาก Ayada, Scent of Thai หอมไทย กรุงเทพมหานคร,เกลือหอม จากดอกเกลือ จากสปาเกลือกังหันทอง จ.เพชรบุรี, ตุ๊กตาปั้นลิง จากตุ๊กตาลิงปั้นดินสอพอง จ.ลพบุรี, เพนต์โลโก้ Amazing Thailand ลงบนถุงผ้าลายโขมพัสตร์ จากโขมพัสตร์ จ.ประจวบคีรีขันธ์, aroma sachet (ถุงหอมอโรม่า) จาก Divana wellness co., Ltd กรุงเทพ ,เพ้นต์ Magnet หน้าโขน / ปักทองพวงกุญแจลลายไทย จากหัวโขนภูเตศวร จ.สมุทรสงคราม, ร่อนทองโดยใช้เรียง จากศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด จ.ประจวบคีรีขันธ์
โซนที่ 4 : หมู่บ้านภาคเหนือ
นำเสนอเอกลักษณ์และความโดดเด่น ภายใต้คอนเซป “SEASON OF NORTH 2025” ผ่าน “5 Must Do in Northern Thailand” ในฤดูต่าง ๆ ของภาคเหนือ ได้แก่
– Must Taste หรือ Eat อิ่มอร่อยรสชาติอาหารถิ่นเมืองเหนือ : Soft Power Food
– Must Try หรือ Beat ทดลอง สุดยอดกีฬา : Soft Power Fighting
– Must Buy ช้อปปิ้งซื้อของฝากเมืองเหนือ: Soft Power Fashion
– Must See ดูการแสดงละลานตาวัฒนธรรมเมืองเหนือ: Soft Power Festival
– Must Seek ค้นหาท่องเที่ยวใหม่ Unseen : Soft Power Film ผ่านแหล่งท่องเที่ยว และกิจกรรมที่โดดเด่นของภาคเหนือ ผสมผสานไปกับเทคโนโลยีสมัยใหม่
● แลนด์มาร์คภาคเหนือ
จอ LED รูปตัวแอล และมีพื้นจอไม่น้อยกว่า 6×26 เมตร (สูงxกว้าง) นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ 17 จังหวัดภาคเหนือ และภาพเคลื่อนไหว (timelapse) แหล่งท่องเที่ยว และพิเศษสุดกับ การนำเสนอน้องเอวา เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ในรูปแบบ 3D Animation
● จุดถ่ายภาพ
จุดเช็คอิน-ถ่ายภาพ “แอ่วเหนือ” สื่อถึงอัตลักษณ์ของภาคเหนือ 4 จุด อาทิ
1) จุดถ่ายภาพการจำลองสปาเอกลักษณ์ของภาคเหนือ “ศิลาสปา นวดฟ้อนเล็บ”
2) จุดถ่ายภาพ 3D น้องเอวา เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
3) จุดถ่ายภาพฉากแหล่งท่องเที่ยว 3 มิติ “ถ้ำสีฟ้า จังหวัดตาก”
4) จุดถ่ายภาพจำลองเทศกาลสงกรานต์ภาคเหนือ อาทิ ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง จังหวัดเชียงใหม่
● กิจกรรมไฮไลต์
– กิจกรรม The North LED Show : นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวภาคเหนือในรูปแบบเสมือนจริง อาทิ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ 17 จังหวัดภาคเหนือ และภาพเคลื่อนไหว (timelapse) แหล่งท่องเที่ยว และไฮไลต์สำคัญ “น้องเสือเอวา” ของสวนสัตว์ไนซ์ซาฟารีเชียงใหม่ในรูปแบบ 3D Animation
– จุดเช็คอิน-ถ่ายภาพ “แอ่วเหนือ” สื่อถึงอัตลักษณ์ของภาคเหนือ จำนวนไม่น้อยกว่ากว่า 4 จุด อาทิ มวยท่าเสา สงกรานต์ ภาพ 3 มิติ ฯลฯ ร่วมถึงการถ่ายภาพบนจอ LED ขนาดใหญ่
-กิจกรรม The North Fashion Show : การเดินแบบโชว์ผ้าพื้นเมือง 17 จังหวัดภาคเหนือ
– กิจกรรม Workshop/DIY การจัดกิจกรรม Workshop/DIY ให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมฯ
– กระทรวงเสพความสุข จำลองซุ้มน้ำและเครื่องดื่มพร้อมการเปิดเพลงของ DJ เพื่อสร้างบรรยากาศสไตล์คาเฟ่ต์ และ 365 DAYS COFFEE AT NORTH เสิร์ฟความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มชา/กาแฟ/โกโก้ คราฟท์โซดา หรือเมนูเอกลักษณ์ (Signature) ภายใต้ธีม “365 วันแห่งการเดินทางของคนรักกาแฟ” เชื่อมโยงไปถึงแหล่งปลูกและแหล่งผลิต อาทิ กาแฟเดอม้ง จ.น่าน โกโก้ วัลเล่ย์ จ.น่าน
– ขบวนแห่ที่สะท้อนอัตลักษณ์ภาคเหนือ วันละ 1 รอบ รอบหมู่บ้าน อาทิ ขบวนแห่งานสลุงหลวง กลองใหญ่ นครลำปาง และแห่ไม้ก้ำสะหลี ปี๋ใหม่เมือง, ขบวนแห่ลูกแก้ว (ปอยล่างลอง),ขบวนยี่เป็งล้านนา
– การแสดงโชว์จากศิลปินที่มีชื่อเสียง และการแสดงนาฏยศิลป์ร่วมสมัยจากวิทยาลัยนาฎศิลป์เชียงใหม่ x สุโขทัย และวิทยาลัยนาฎศิลป์ส่วนกลาง ตลอด 5 วัน
– การจำหน่ายอาหารถิ่นภาคเหนือ “ขันโตก Premium จำนวน 50 โตก/วัน”
– โซนกาดหมั้ว จัดเต็มอาหารพื้นเมืองเหนือลำแต้ๆ และอาหารถิ่นหากินไม่ง่ายอีกมากมาย เช่น ถั่วพูซิ่ง ดีเจเวียงสอน, น้ำเงี้ยวเชียงราย, ข้าวห่อสาวลับแล, Fish & Chips ปลาแรด, ข้าวเปิ๊บ บ้านนาต้นจั่น เป็นต้น
– โซนคัวฮักคัวฮอม สายช้อปห้ามพลาดกับสินค้าชุมชน (OTOP) เช่น บ้านทองสมสมัย จังหวัดสุโขทัย ทองลวดลายโบราณแบบสุโขทัยที่เป็นทองคำบริสุทธิ์ 99.99%, ร้านทิพย์เจมส์แอนด์จิลเวลรี่ จ.ตาก อัญมณีและเครื่องประดับช่วยเสริมบุญ บารมี, เครื่องเงิน บ้านละอูบ จ.แม่ฮ่องสอน
– โซนซะป๊ะคราฟท์ เอาใจชาวมินิมอลมินิใจกับงานคราฟต์สไตล์ล้านนา เช่น ร้านดอยสเตอร์ จ.แม่ฮ่องสอน, ร้านบ้านมัดใจ จ.แพร่
-โซนกิจกรรม D.I.Y. นำเสนอกิจกรรมเพ้นท์ชามเซรามิก จาก ธนบดี จ.ลำปาง เพ้นท์ลายดอกไม้ที่เป็นอัตลักษณ์ของภาคเหนือบนผ้าบาติก อาทิ เสื้อ กางเกง ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่
– โซนกาดนวด เอาใจชาวออฟฟิศซินโดรม กับ 2 สปาที่ได้รับการการันตีคุณภาพ ได้แก่ สัปปายยะ สปา จ.แม่ฮ่องสอน สปาเชิงสุขภาพที่ได้รับรางวัล TTA และรางวัล Thai World Class Spa (Gold) และ ศิรา สปา จ.เชียงใหม่ Day Spa ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ ซึ่งได้รับรางวัลการันตีคุณภาพรางวัล TTA และมาตรฐาน SHA-Plus ผสมผสานกับท่าร่ายรำของการฟ้อนเล็บ ออกมาเป็น “นวดฟ้อนเล็บ” แห่งแรกและแห่งเดียวในโลก
– โซน Tour แอ่วเหนือ เอาใจคนพร้อมออกเที่ยว เสนอโปรโมชันแพ็กเกจทัวร์ ในราคาสุดพิเศษ เพียง 5 วันเท่านั้น พร้อมชวนแอ่วภาคเหนือให้ฉ่ำในเส้นทางท่องเที่ยวต่าง ๆ
โซนที่ 5 : หมู่บ้านภาคใต้
วัฒนธรรมปักษ์ใต้ที่เต็มไปด้วยสีสันและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผ่านแนวคิด “5 Must do in Thailand : GO SOUTH” สะท้อนผ่านกิจกรรมหล๊บใต้บ้านเรา 14 จังหวัดภาคใต้ ผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อรับความสุขทันที ที่เที่ยวใต้
● แลนด์มาร์คภาคใต้
-วงเวียนสุรินทร์จังหวัดภูเก็ต เเละวังยะหยิ่ง จังหวัดปัตตานี
-ป้ายชื่อหมู่บ้าน SOUTHERN Village
-ซุ้มประตูทางเข้า แสดงอัตลักษณ์ความเป็นภาคใต้ ตกแต่งจากการใช้ลวดลายผ้าปาเต๊ะ ผ้าบาติกลูกปัด ว่าวเบอร์อามัส ว่าววงเดือน
● จุดถ่ายภาพ
4 จุดถ่ายภาพที่ผสมผสานนวัตกรรมและเทคนิคร่วมสมัย สีสันลวดลายของลูกปัดโนรา จ.พัทลุง สีสันของโลกใต้ทะเลภาคใต้ สีสันของใบไม้สีทอง และสีสันของกรงนก
● กิจกรรมไฮไลต์
1. Must See : Land Mark SOUTHERN Village และ “เรินพี่บ่าวข่าวสาร” แบบจำลองวังยะหยิ่ง จังหวัดปัตตานี ให้บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมงานประเพณี จุดถ่ายรูปที่แสดงให้เห็นถึงมนต์เสน่ห์ดินแดนใต้ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ท่องเที่ยว ดึงดูดและสร้างแรงบันดาลใจ
2.Must Taste: “หลาดหรอยเพ Must Taste” รับประกันความหร่อยแรง! กับเมนูอาหารรสใต้ หรอยแรงอก! การันตีรางวัลมิชลินที่ยกมาจาก 14 จังหวัดภาคใต้ ชวนดื่มด่ำสัมผัสวิถีแบบคนใต้ ทั้งกาเฟ โรตี ชาชัก เครื่องดื่ม เช่น ครัวต้นฝน ร้านเจ๊น้อง จังหวัดพังงา เจริญข้าวมันไก่เบตงพันธุ์แท้ จ.ยะลา โกสุยหมูย่าง ตรัง จ.ตรัง หอยนางรมสุราษฎร์ธานี (GI) จ.สุราษฎร์ธานี ชาชักอีซัน-โรตียะลา จ.ยะลา บาราโรตี จังหวัดสตูล
3. Must Try: “หลาด Craft ลองแลต่ะ” กิจกรรมสาธิตและ DIY. กับงานศิลป์แดนใต้ คัดสรรอย่างมีเอกลักษณ์จากวัสดุในท้องถิ่น เช่น งานศิลปะจากไม้ลอยเล (ขยะ) จังหวัดกระบี่ จักสานชะลอมจากเชือกกล้วย สีธรรมชาติ จังหวัดสงขลา งานประดิษฐ์จากกะลามะพร้าว จังหวัดสตูล เพนท์ผ้าเช็ดหน้าบาติก จังหวัดพังงา สานกระจูดบ้านห้วยลึก จังหวัดสุราษฎร์ธานี สัมผัสการนวดคลายเส้นเเบบผ่อนคลายสไตล์ Southern “หลาดคลายเส้น…ได้แรงอก!” และจะพาคุณวาร์ปสัมผัสเสน่ห์ภาคใต้ กับโซน“virtual หรอย reality” ร่วมเล่นเกมส์ VR Surf, และสัมผัสเส้นทาง Grand Moment นำเสนอผ่านจอ interactive
4. Must Buy “หลาดงามหนัด เสน่ห์ปักษ์ใต้” “หลาดลองแล MUST ช้อปของใต้” และ “Mutivese แดนใต้” รวมผลิตภัณฑ์ของดีของเด่น ที่เรายกภาคใต้มาไว้ที่นี้ การันตีจากรับรางวัล UNESCO ทั้งผ้าติกและปาเต๊ะ ผ้าใต้พิมพ์ลายร่วมสมัยจากแนวคิดคนรุ่นใหม่ที่รักบ้านเกิดมาพัฒนาต่อยอดโดงดัง พร้อมเครื่องรางของขลังเติมพลังกายพลังใจ สายศรัทธาความเชื่อเกจิดัง แดนใต้ เช่น คลอเทียร์ปาเต๊ะ จังหวัดสงขลา ยาหยี จังหวัดภูเก็ต เคบาย่า จังหวัดภูเก็ต บาติก เดอ นารา จังหวัดนราธิวาส ยาบุลัญ จังหวัดยะลาตรังยังคราฟ จังหวัดตรัง เครื่องประดับมุกสตูลเพิร์ล พระพยายาม วัดต้นเลียบ จังหวัดสงขลา พร้อมนำเสนอโปรโมชันสินค้าและบริการในราคาพิเศษ
5. Must See “หรอย เอนเตอร์เทนเมนท์”
– ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมแดนใต้หาชมได้ยาก อาทิ การแสดงโนราห์ (ได้่รับรางวัล Unesco) ระบำนกกรงหัวจุก ระบำชาชัก
– การเดินแบบสีสันแฟชั่นผ้าภาคใต้ “เสน่ห์ไทย ผ้าเสน่ห์ใต้ ใส่ผ้าไทยใครว่าเชย”
– ทุกวันในช่วงเวลา 18.00 น. – 19.00 น. ขอเชิญท่านมาหน้าเวทีร่วม “รำวงเวียนครก” เพื่อทดสอบความแข็งแรงของร่างกาย ที่จะพาท่านย้อนยุคแด๊นซ์ มันส์ๆ กับ แด๊นเซอร์สาวสวย ณ เวทีการแสดงภาคใต้กัน
– การแสดงดนตรีของศิลปินร่วมสมัย อาทิ แน้ม ธรรมดาไม่ใส่ไข่ บิว กัลยาณี WANYAI
– กิจกรรมแถลงข่าว อาทิ แถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม Nakhon Si Trail Series 2025
– กิจกรรมเสวนาเชิญชวนเที่ยวภาคใต้โดย Influencer ชาวใต้
โซนที่ 6 : หมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชวนหลงรักถิ่นอีสานไปกับแนวคิด “ประเพณีสีอีสาน วิถีแห่งศรัทธา” นำเสนอความโดดเด่นของภาคอีสานจาก 20 จังหวัด บอกเล่าความเป็นอีสานผ่านวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร งานหัตถกรรม มวยโบราณอีสาน วัฒนธรรมและสินค้าที่มีศักยภาพ ผ่านแนวคิด 5 Must Do in Isan
– Must See ประเพณีที่โดดเด่นด้วย Land Mark หลักของหมู่บ้าน “ต้นกระธูปยักษ์ไฮเทค” ซึ่งเป็นตัวแทนประเพณีบุญเดือนสิบหนึ่งในฮีตสิบสองคองสิบสี่ของชาวอีสาน
– Must Taste อาหารอีสานของแท้
– Must Try กิจกรรมสาธิตและ Workshop ที่สะท้อนภูมิปัญญาของคนรุ่นเก่าส่งต่อคนรุ่นใหม่
– Must Buy กับผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นส่งต่อความยั่งยืนอย่างแท้จริง
– Must Seek ประเพณีอีสานที่น่าสนใจ ผ่านจุดถ่ายภาพ
– Must See การแสดงศิลปวัฒนธรรมอีสานทั้งในรูปแบบที่เป็นวัฒนธรรมพื้นบ้านที่หาชมได้ยากผสมผสานความหลากหลายของการแสดงร่วมสมัย
● แลนด์มาร์คภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ต้นกระธูปยักษ์ไฮเทค ความสูง 7 เมตร และกระธูปบริวาร 2 ต้น ความสูง 4 เมตร สะท้อนงานบุญเดือนสิบ หนึ่งในงานบุญตามฮีตสิบสองคองสิบสี่ จากจังหวัดชัยภูมิ
● จุดถ่ายภาพ
ประเพณีอีสานที่เชิญชวนอยากให้เดินทางไปเห็นของจริงที่ภาคอีสาน เช่น งานบุญกระธูป จ.ชัยภูมิ มาลัยข้าวตอก จ. ยโสธร และผีตาโขน จ.เลย
● กิจกรรมไฮไลต์
– Must See : Land Mark “ต้นกระธูปยักษ์ไฮเทค” งานบุญเดือนสิบ หนึ่งในงานบุญตามฮีตสิบสองคองสิบสี่ ตัวแทนสีสันงานประเพณีของภาคอีสาน จากจังหวัดชัยภูมิ มีสีสันสันสวยงามสดใส ผสานนวัตกรรมหมุนรอบ 360 องศา ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความอลังการ และยังมีการแสดงแสง สี เสียง (Dramatic Light and Sound Show) ร่วมกับต้นกระธูปผสมผสานการแสดงทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
– Must Taste “หม่องแซ่บนัว” กับเมนูเด็ดเป็นตาแซ่บจากทั้ง 20 จังหวัดของภาคอีสาน แบบ original ชวน “น้ำลายแตก” เช่น ส้มตำไก่ย่างเขาสวนกวางขอนแก่น ลาบเป็ดอุดรฯ ไก่ย่างทับทันศรีสะเกษ เนื้อโคขุนย่างสกลนคร โคดำลำตะคอง ผัดหมี่โคราช เป็นต้น
– Must Try “หม่องเฮ็ดสุดฝีมือ” กิจกรรมสาธิต อาทิ การทำสร้อย ตุ้มหู ด้วยเศษผ้าไหมบ้านนาโพธิ์ บุรีรัมย์ การทำต้นกระธูป ชัยภูมิ การทำจ้ำคำลายบนผ้า และผ้าสุวรรณพัตร์โฮงคำสุวรรณคูหาหนองบัวลำภู พบกับ Art and Craft Therapy : “ศิลป์อีสาน” จากการรวมตัวของกลุ่มคนรุ่นใหม่ของจังหวัดสกลนคร “โฮมเทอละปี” (Home Therapy) นำเสนอกิจกรรมการปักผ้า ทำสร้อยข้อมือ พวงกุญแจ แบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากวัสดุในท้องถิ่น
– Must Buy “ของต้อนบ้านเฮา” รวมผลิตภัณฑ์ผ้าทั่วอีสาน อาทิ ผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ ราชินีผ้าไหมไทย ผ้าหมี่ขิดอุดรฯ ผ้าไหมสุรินทร์ ผ้าทอเบญจศรี ศรีสะเกษ ผ้าย้อมครามสกลนคร ผ้าฝ้ายย้อมโคลนธรรมชาติมุกดาหาร ผ้ามัดหมี่ปักธงชัยนครราชสีมา ผ้าทอวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวลำภู พร้อมพบกับช่วง ตลาด “โหวกเหวก 365 วินาทีทอง”เสนอโปรโมชั่น สินค้าและบริการราคาพิเศษ
– Must Seek “เจ้าถาม ข่อยตอบ เด้อ” ให้บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมงานประเพณี จุดถ่ายรูปที่แสดงให้เห็นถึงประเพณีอีสานที่เชิญชวนอยากให้เดินทางไปเห็นของจริงที่ภาคอีสาน เช่น งานบุญกระธูป ชัยภูมิ มาลัยข้าวตอก ยโสธร และผีตาโขน เลย
– Must See “อีสานม่วนซื่น” การแสดงศิลปวัฒนธรรมอีสานที่หาชมได้ยากจากสถาบันการศึกษาในภาคอีสาน การแสดง Street Performance ในสไตล์อีสาน และดนตรีลูกทุ่งอีสานอินดี้ที่มีบทเพลง ท่วงทำนอง ซึ้งๆ ฮิตๆ ติดใจผู้ฟัง
7. โซนพันธมิตรและห้าง ททท : ททท. จับมือกับพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวสร้างการรับรู้ในแง่มุมต่างๆของการท่องเที่ยว ได้แก่
– องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.
– การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) – กระทรวงวัฒนธรรม
– หอการค้าไทย – บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
– ตำรวจท่องเที่ยว – บริษัท ปตท. จำกัด
– สถาบันวิจัยดารา ศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT – การรถไฟแห่งประเทศไทย
– การกีฬาแห่งประเทศไทย
ททท. จับมือสมาคม ชมรมธุรกิจท่องเที่ยว 8 หน่วยงาน จัดโซนนำเสนอขายแพ๊คเกจท่องเที่ยวภายในประเทศ ได้แก่
– สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย – สมาคมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA)
– สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) – สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA)
– สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) – สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย (สนท.)
– สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.)
– สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA)
โซนที่ 8 : เวทีกลาง
ส่งต่อประสบการณ์ความสุข ผ่านการแสดงดนตรี ศิลปินที่มีชื่อเสียง และการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม การแสดงร่วมสมัย การเดินแบบแฟชั่นโชว์ และกิจกรรมเล่นเกมส์แจกของรางวัลตลอด 5 วันจัดงาน
► การแสดงเชิงวัฒนธรรม อาทิ ลิเกฮูลู โนรา ฟ้อนสาวไหม ฟ้อนร่มขันดอก เซิ้งกระทบไม้ ฟ้อนนกกิงกะหร่า นาคาอวยชัน ศิลปะการต่อสู้คู่รามเกียรติ์ ระบำไก่ชน
►การแสดงของศิลปิน อาทิ สุนทราภรณ์ ศรราม น้ำเพชร เอิ๊ต ภัทรวี Better Weather ต่าย อรทัย เป๊ก ผลิตโชค กลัฟ คณาวุฒิ เบล วริศรา ไรอัล กาจบัณฑิต Monica เต๋า ภูศิลป์ ASIA7 เป็นต้น
โซนที่ 9 : Sustainable Tourism Goals (STGs)
นําเสนอแนวคิดเป้าหมายการท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals: STGs) สู่การท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิ เป็นศูนย์ (Net Zero Carbon Tourism) ที่เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยว ผสมผสานไปกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ในการนําเสนอองค์ความรู้เรื่องความยั่งยืน
● แลนด์มาร์ค
– Landmark วาฬบรูด้า ประติมากรรมขยะพลาสติกหลากหลายชนิด เช่น ขวดพลาสติก ฝาขวด หลอดกาแฟ ถุงขนม ฯลฯ โดย ททท. ร่วมกับ Wishulada
– รถไฟจำลอง Green logistics
– Crystal ball
● กิจกรรมไฮไลต์
– กิจกรรม Sustainable playground สไลด์เดอร์สีเขียวสู่บ่อบอลแยกขยะ
– กิจกรรม Workshop ได้แก่ Waste–No–Waste Workshops เวิร์คช้อปที่แปรรูปของเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์ เวิร์คช้อปการผูกเงื่อนและกางเต็นท์
– จุดพัก REST AREA ZONE บรรยากาศ camping เพื่อให้เป็นจุดพักผ่อนสำหรับนักท่องเที่ยว โดยมีหูฟัง SLIENT DISCO ฟังเสียงบรรยากาศธรรมชาติเสมือนว่าทุกท่านกำลังได้นอนอยู่ริมน้ำตก นอนอยู่กลางหุบเขา


















